ข่าวอัยการชี้กก.บห.'ทษช.' รอดคดีอาญาเหตุไร้ก.ม.บัญญัติ - kachon.com

อัยการชี้กก.บห.'ทษช.' รอดคดีอาญาเหตุไร้ก.ม.บัญญัติ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสุงสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊กข้อกฎหมาย กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติในวันนี้ มีข้อความว่า ว่าด้วยการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและบางกรณีของการยุบพรรค ผมขอนำเสนอประเด็นทางกฎหมายเกี่ยวกับการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมาย ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวข้องกับการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ และการยุบพรรคไทยรักษาชาติด้วย ดังนี้

1.การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตาม พรป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และ พรป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 ไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่า ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครับเลือกตั้งจะต้องถูกเพิกถอนสิทธิเป็นระยะเวลาเท่าใด ซึ่งแตกต่างจากกรณีของการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ที่ พรป. ว่าด้วยพรรคการเมือง และพรป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะกำหนดระยะเวลาในการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไว้อย่างชัดเจน ซึ่งมีระยะเวลาในการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแตกต่างกันไปตามการกระทำความผิด มีทั้ง 5 ปี, 10 ปี และสูงสุด 20 ปี ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติเป็นระยะเวลา 10 ปี นั้น เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไว้ดังที่กล่าวไป ศาลรัฐธรรมนูญจึงได้พิจารณาระยะเวลาที่ควรจะต้องถูกเพิกถอนสิทธิ โดยใช้ดุลพินิจพิจารณาตามหลักความได้สัดส่วนพอเหมาะพอควร ระหว่างพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการกระทำ ให้ได้สัดส่วนกับโทษของการถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งที่คณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติพึงจะได้รับ

2. การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งที่กำหนดระยะเวลาไว้ มีเฉพาะกรณีที่เป็นการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 235 เท่านั้น ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ หรือผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน  มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วแต่กรณี มีคำพิพากษาว่า ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หรือได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ศาลมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นได้ และผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกเป็น ส.ส. ส.ว. สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ด้วย

 3. การที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ เพราะมีการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตาม พรป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง  (2) และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาตินั้น ไม่มีกฎหมายกำหนดให้ กกต.ต้องดำเนินคดีอาญาต่อคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ที่ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งต่อไปด้วย  ซึ่งแตกต่างจากกรณีตาม พรป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561  มาตรา 132 ที่ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง หากผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กระทำการการอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหัวหน้าพรรคการเมือง หรือคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลยหรือทราบถึงการกระทํานั้นแล้ว ไม่ได้ยับยั้งหรือแก้ไขเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองนั้นตามคำร้องของ กกต. และมีคําสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นด้วยแล้ว มาตรา 132 กำหนดให้ กกต.พิจารณาดําเนินการให้มีการดําเนินคดีอาญาแก่คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองคนนั้นด้วย และให้ถือว่า กกต. เป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา.