'หน่อย-มาร์ค'จ๊ะเอ๋หาเสียงเช้านี้ย่านบึงกุ่ม
การเมือง
จากนั้นเวลา 08.30 น. ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดหมู่บ้านสัมมากร ถ.รามคำแหง 110 เขตสะพานสูง ช่วยนายวิตต์ ก้องธรนินทร์ ผู้สมัครส.ส. กทม.เขต 23 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยในการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนมุ่งเน้นไปสู่การสร้างสุขภาพ และเรื่องอาหารปลอดภัย ทั้งนี้ 30 บาทในยุคใหม่จะเป็นการลดโรค จะเร่งดำเนินการในการสร้างสุขภาพคือ 1. อาหารปลอดภัย โดยเราจะนำการตรวจอาหารปลอดภัยดำเนินการในทุกตลาด รวมถึงในซูเปอร์มาร์เก็ตเหมือนเดิม เพราะเราถือว่าประชาชนที่มาซื้อของไม่ทราบเลยว่าอาหารที่ซื้อกลับบ้านปนเปื้อนสารเคมีและมีทิพย์ต่อร่างกายอย่างไรเพราะไม่สามารถมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า 2. เรื่องการออกกำลังกาย โดยสนับสนุนงบประมาณไปยังกลุ่มพวกกำลังกายประจำชุมชน
เมื่อถามว่า จากกรณีทนายความยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องยุบพรรคเพื่อไทย สาเหตุจากคุณหญิงสุดารัตน์ปราศรัยหลอกลวง ว่า ส.จ.เขตอำเภอเมืองเลย ไปเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว ซึ่งความเป็นจริงแล้วบุคคลดังกล่าวเขาได้ยื่นความจำนงมาสมัครเป็นปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทย และเอกสารของกรรมการสรรหาพรรคก็มีรายชื่อบุคคลดังกล่าว แต่ทราบมาว่าช่วงหลังเขาได้ไปขอถอนตัวกลับทางหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครแจ้งให้ตนได้ทราบ อย่างไรก็ตามคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่มีเจตนาหรือมีความตั้งใจที่จะทำอะไรและที่สำคัญก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ตนไม่กังวลที่ทนายความได้ไปยื่นต่อ กกต.ให้ยุบพรรคเพื่อไทย เราจะดำเนินการตามข้อเท็จจริงและมั่นใจว่าเราไม่ได้ทำผิดอะไร
เมื่อถามถึง กรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ซึ่งปรากฏเป็นข่าวว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าที่ออกมาเป็นความจริงหรือไม่ เพราะได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น มองว่าไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดเดา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าในฐานะหัวหน้า คสช.ได้ตั้งพล.อ.ประวิตร ในฐานะรองหัวหน้าคสช. ไปให้เลือกส.ว.และได้เลือกออกมาอย่างที่เราเห็นเป็นบรรดานายทหารคนใกล้ชิดของพล.อ.ประวิตรและพล.อ.ประยุทธ์ซึ่งส.ว.ก็จะทำหน้าที่ในการกลับมาเลือกนายกฯซึ่งมีพล.อ.ระยุทธ์ มาเป็นผู้สมัครนายกรรัฐมนตรีให้ส.ว.กลุ่มดังกล่าวนี้เลือก ดังนั้นตนคิดว่าสื่อมวลชนรวมถึงประชาชนก็คงจะเห็นแล้วว่ามีความถูกต้องหรือไม่และจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและส่วนรวมอย่างไรซึ่งการเลือกส.ว.นี้เสียงบประมาณเป็นพันล้านในการคัดเลือก ตนอยากฝากให้สื่อมวลชนไปตรวจสอบว่าการเรื่องดังกล่าวนี้ได้เกิดประโยชน์อะไรกับประชาชนแต่ที่เกิดประโยชน์ต่อการสืบทอดอำนาจของ คสช. เท่านั้น ขอประชาชนอย่าท้อต้องออกไปเลือกตั้งกันให้มากให้ชนะส.ว.250 เสียง ที่ คสช. ตั้งมา
เมื่อถามว่า มีข้อแนะนำผู้ที่สนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)ที่ตั้งใจจะไปเลือกทษช.อย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนไม่กล้าให้ข้อแนะนำ แต่ความคิดเห็นส่วนตัวการเมืองมีเพียงสองขั้วคือ ต่อท่ออำนาจให้ คสช. โดยมีทั้งพรรคที่ประกาศตัวชัดเจนและบางพรรคที่ยังไม่กล้าประกาศตัวชัดเจน แต่ท่าทีก็เห็นชัดแล้วว่าจะไม่รวมกับฝั่งประชาธิปไตยกับ และขั้วที่ไม่ต่อท่ออำนาจ คสช. ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี และหากชนะเลือกตั้งจะเลือกกันเองใครได้เสียงข้างมากจะเลือกคนที่มาจากประชาชน ซึ่งมีเพียงสองขั้วให้ประชาชนได้เลือกเท่านั้น ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่มีการแข่งขันหลายพรรคเพราะมีเงื่อนไขส.ว. 250 เสียง ทำให้เกิดการเมืองแบ่งเป็นสองขั้ว ดังนั้นในกรณีของพรรคที่ถูกยุบพรรคหากเขาประกาศตัวว่าไม่ได้เป็นพรรคที่จะต่อท่ออำนาจให้กับคสช. ตนก็คิดว่าคะแนนยังจะอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยส่วนจะอยู่พรรคไหนเล่นนั้นตนก็ไม่แน่ใจ.