'พปชร.'ปราศรัยใหญ่ขอนแก่นยันไม่มีโม้ –ไม่เคยโกง
การเมือง

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. เย็นวันเดียวกัน ที่ พุทธมณฑลอีสาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น แกนนำพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำโดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง นาย กอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อช่วยนายวัฒนา ช่างเหลา ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคพลังประชารัฐหาเสียงในโดยมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังจำนวนมากกว่า 3.5หมื่นคน


นายสนธิรัตน์ กล่าวขอบคุณ ประชาชนกว่า 3.5 หมื่นคน ที่ร่วมฟังการปราศรัยและให้กำลังใจพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ตนลงพื้นที่ต่างๆ ฐานะตัวแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากมีหลายฝ่ายไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ เพราะกลัวคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์จะทำให้พรรคพลังประชารัฐชนะทุกเขตเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ทั้งนี้พรรคพลังประชารัฐเตรียมสานต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนั้นพรรคมีนโยบายที่ดีเพื่อประชาชน อาทิ มารดาประชารัฐ ตั้งครรภ์รับเงินช่วยเหลือทันทีผ่านบัตรสวัสดิการคนท้อง รวม 2.7หมื่นบาทตลอดการตั้งครรภ์ 9 เดือน, รับเงินช่วยเหลือ 1หมื่นบาทเมื่อถึงวันคลอด และให้เงินสนับสนุน 2,000 บาทต่อเดือนต่อเนื่อง 6 ปี

“พรรคพลังประชารัฐไม่ขี้โม้ และไม่เคยมีเรื่องคดโกง เห็นได้จากนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เงินในบัตรส่งตรงถึงมือประชาชนอย่างแท้จริงทุกสตางค์ ทั้งนี้วันที่ 24 มีนาคม เป็นวันเปลี่ยนแปลงประเทศ หากเลือกแบบเก่าจะได้แบบเก่า แต่หากอยากได้ของใหม่ อยากได้ความสงบและนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ผมขอให้จำเบอร์ผู้สมัครให้ดี เพราะแต่ละเขตได้หมายเลขไม่เหมือนกัน แต่หากจำไม่ได้ต้องมองหาโลโก้รังผึ้ง สัญลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายอนุชา ปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้เป็นรัฐบาลแก้ปัญหาความยากจนของประชาชน ทั้งนี้วันที่ 24 มี.ค.นี้ ไม่มีใครบังคับให้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองใดได้ เพราะเป็นการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย และหากพรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นรัฐบาล เป็นเพราะความต้องการของประชาชน ผลการเลือกตั้งคือคำตอบจากคนทั้งประเทศ ไม่มีประเด็นที่บอกว่าเลือกฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายเผด็จการ เพราะหลังการเลือกตั้ง คือการตัดสินใจของประชาชน ขอให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อร่วมมือพาประเทศไปสู่การพัฒนา และจับมือประชาชนก้าวพ้นความยากจน ไปพร้อมกับพรรคพลังประชารัฐ
ด้านนายกอบศักดิ์ ปราศรัยด้วย ว่าจากการลงพื้นที่ที่เขื่อนอุบลรัตน์ และรับฟังข้อมูลว่า ปี 2562 น้ำจะแล้งหนัก ชาวนาไม่สามารถทำนาปรังได้ ซึ่งการแก้ปัญหาน้ำแล้ง พล.อ.ประยุทธ์รับฟังและพร้อมแก้ปัญหา ขณะที่พรรคพลังประชารัฐพร้อมขับเคลื่อน ผ่านโครงการโขง-ชี-มูล เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำโขงลงสู่แม่น้ำชี และผลักดันเข้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ รวมถึงจะสร้างโครงการประตูระบายน้ำ, โครงการเติมน้ำในเขื่อน เช่น ผลักดันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สู่ลำตะคอง ให้ประชาชนได้รับประโยชน์ ทั้งนี้ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ตนขอให้ประชาชนเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงได้ ส.ส.เขต และ ได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเข้าไปมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ.


นายสนธิรัตน์ กล่าวขอบคุณ ประชาชนกว่า 3.5 หมื่นคน ที่ร่วมฟังการปราศรัยและให้กำลังใจพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ตนลงพื้นที่ต่างๆ ฐานะตัวแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากมีหลายฝ่ายไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ เพราะกลัวคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์จะทำให้พรรคพลังประชารัฐชนะทุกเขตเลือกตั้งแบบถล่มทลาย ทั้งนี้พรรคพลังประชารัฐเตรียมสานต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนั้นพรรคมีนโยบายที่ดีเพื่อประชาชน อาทิ มารดาประชารัฐ ตั้งครรภ์รับเงินช่วยเหลือทันทีผ่านบัตรสวัสดิการคนท้อง รวม 2.7หมื่นบาทตลอดการตั้งครรภ์ 9 เดือน, รับเงินช่วยเหลือ 1หมื่นบาทเมื่อถึงวันคลอด และให้เงินสนับสนุน 2,000 บาทต่อเดือนต่อเนื่อง 6 ปี

“พรรคพลังประชารัฐไม่ขี้โม้ และไม่เคยมีเรื่องคดโกง เห็นได้จากนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เงินในบัตรส่งตรงถึงมือประชาชนอย่างแท้จริงทุกสตางค์ ทั้งนี้วันที่ 24 มีนาคม เป็นวันเปลี่ยนแปลงประเทศ หากเลือกแบบเก่าจะได้แบบเก่า แต่หากอยากได้ของใหม่ อยากได้ความสงบและนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ผมขอให้จำเบอร์ผู้สมัครให้ดี เพราะแต่ละเขตได้หมายเลขไม่เหมือนกัน แต่หากจำไม่ได้ต้องมองหาโลโก้รังผึ้ง สัญลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายอนุชา ปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้เป็นรัฐบาลแก้ปัญหาความยากจนของประชาชน ทั้งนี้วันที่ 24 มี.ค.นี้ ไม่มีใครบังคับให้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองใดได้ เพราะเป็นการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย และหากพรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นรัฐบาล เป็นเพราะความต้องการของประชาชน ผลการเลือกตั้งคือคำตอบจากคนทั้งประเทศ ไม่มีประเด็นที่บอกว่าเลือกฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายเผด็จการ เพราะหลังการเลือกตั้ง คือการตัดสินใจของประชาชน ขอให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อร่วมมือพาประเทศไปสู่การพัฒนา และจับมือประชาชนก้าวพ้นความยากจน ไปพร้อมกับพรรคพลังประชารัฐ
ด้านนายกอบศักดิ์ ปราศรัยด้วย ว่าจากการลงพื้นที่ที่เขื่อนอุบลรัตน์ และรับฟังข้อมูลว่า ปี 2562 น้ำจะแล้งหนัก ชาวนาไม่สามารถทำนาปรังได้ ซึ่งการแก้ปัญหาน้ำแล้ง พล.อ.ประยุทธ์รับฟังและพร้อมแก้ปัญหา ขณะที่พรรคพลังประชารัฐพร้อมขับเคลื่อน ผ่านโครงการโขง-ชี-มูล เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำโขงลงสู่แม่น้ำชี และผลักดันเข้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ รวมถึงจะสร้างโครงการประตูระบายน้ำ, โครงการเติมน้ำในเขื่อน เช่น ผลักดันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สู่ลำตะคอง ให้ประชาชนได้รับประโยชน์ ทั้งนี้ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ตนขอให้ประชาชนเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงได้ ส.ส.เขต และ ได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเข้าไปมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ.