พปชร.โวได้ส.ส.กทม.ไม่ต่ำกว่า 10 ที่นั่ง
การเมือง
ทั้งนี้ นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงความมั่นใจในผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ทุกคนมีความตั้งใจทุ่มเทที่จะทำงานให้ประชาชนทุกคน และเสียงตอบรับพรรคพลังประชารัฐในโค้งสุดท้ายเสียงดีขึ้นมาก ทำให้เรามั่นใจว่าจะได้ส.ส.มากขึ้น แต่ยอมรับว่ามีส่วนน้อยที่บอกว่ากลัวพรรคพลังประชารัฐจะแพ้ ไม่ชนะ ดังนั้นหากรู้สึกอย่างนี้ ก็ขอให้ช่วยกันออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากๆในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ซึ่งประชาชนที่อยู่ในพื้นที่มายาวนานต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง และพลังเหล่านี้ทำให้พรรคมั่นใจว่าเรามีเสียงดีขึ้น จนสามารถยึดพื้นที่กรุงเทพฯได้ไม่ต่ำกว่า 10 ที่นั่ง ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอบันทึกภาพการปราศรัยที่จ.ลพบุรี เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งส่อว่าเป็นการสัญญาว่าจะให้ ว่า การพูดถึงนโยบายถือว่าเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นถ้าคลิปวีดีโอนั้ผิด ก็ต้องผิดกันทุกพรรค เพราะทุกพรรคต้องปราศรัยถึงนโยบายว่าถ้าเป็นรัฐบาลแล้วจะทำอะไรให้บ้าง และมีทิศทางทำงานอย่างไร สิ่งที่เกิดคลิปวีดีโอนี้ขึ้นมาเป็นเพราะหลายฝ่ายหวั่นไหวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะประชาชนทั่วประเทศให้การสนับสนุนนิยมชมชอบ จึงมีเจตนาที่จะตัดคลิปวีดีโอนั้นออกมา เพื่อชี้ว่าพรรคพลังประชารัฐทำผิด แล้วคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ไม่จับ ซึ่งนี่คือวิชาทางการเมือง ซึ่งถ้าจะตัดคลิปวีดีโออย่างนี้ ก็คงตัดได้ทุกพรรค และคำว่า"สัญญาว่าจะให้"ต้องระบุว่า ให้คนไหน ชื่ออะไรเป็นพิเศษ และถ้าจะให้ยกตัวอย่าง หลายพรรคก็ให้สัญญาทั้งสิ้น เพราะเป็นการให้ในเชิงนโยบาย และการให้ในเชิงคุณสมบัติที่เป็นการหาเสียงปกติ พรรคไม่ได้กังวลใจเรื่องนี้ และยินดีที่จะให้ตรวจสอบได้เสมอ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ประกาศเดินหน้าเปิดเวทีพูดคุยกับประชาชนทั่วประเทศ เพื่อสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของแกนนำพรรคไทยรักษาชาติที่ประชาชนต้องตัดสินใจ แต่ตนมองว่าอำนาจที่สืบทอดโดยแท้จริง คือ คะแนนเสียงประชาชน แม้วันนี้จะมีความพยายามที่ทำให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่สืบทอดอำนาจ แต่การได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นรัฐบาลต่อนั้นทำได้อยู่ทางเดียว คือการได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จึงอยากชี้แจงประชาชนว่าพรรคเดินเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตย ในการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ความไว้วางใจจากประชาชนถือเป็นการเข้าสู่อำนาจ อำนาจไม่ได้มาจากวิธีการอื่น เพราะถ้ามาด้วยวิธีการอื่น จึงจะเรียกว่าการสืบทอดอำนาจ.