พปชร.ร่ายกลอน'บิ๊กตู่'ขอเสียงชาวย่าโม
การเมือง
นายอุตตม กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมามีแต่ความขัดแย้งแก่งแย่งชิงอำนาจ รัฐบาลเหล่านั้นแทบไม่มีเวลาทำงานเพื่อประชาชน พรรคพลังประชารัฐจึงตั้งใจเข้ามาเพื่อนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยการนำเสนอผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งในจ.นครราชสีมาและทั่วประเทศ ที่จะเข้าไปทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในรัฐสภา พรรคเรามีนโยบายที่ตอบโจทย์ มีผู้นำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เราจึงขอโอกาสอาสาพาประเทศ พี่น้องคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้งมองไปข้างหน้าสู่อนาคตที่สดใส ประเทศเราสงบมาแล้ว 5 ปี ทำมาหากินได้บ้านเมืองเดินหน้าได้ วันนี้พรรคมาเสนอตัวในการร่วมกันเดินหน้า เราไม่ตีกับใคร แต่ใครจะตีเรามากไม่ได้ เพราะพี่น้องประชาชนอยู่กับเรา พรรคพลังประชารัฐมาทำงาน เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมมานาน แก้ตรงจุด ทำได้จริง และ ทำได้ทันที ที่สำคัญ พรรคเราจะเปลี่ยนโคราชไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
“เราต้องการผู้นำที่สามารถนำพาประเทศในห้วงเปลี่ยนผ่านประเทศ ซึ่งเป็นช่วงเวบาสำคัญ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนโคราช แต่วันนี้มีวาทกรรมที่พูดกันมากคือ พวกเรามาเพื่อสืบต่ออำนาจ ทั้งที่เราไม่มีสี ไม่มีขั้ว เรามีขั้วเดียวคือ ขั้วคนไทย เราจะสืบทอดอะไร สิ่งที่เราจะสืบทอดมีเพียงอย่างเดียว คือสืบทอดความสงบ เพื่อนำพาบ้านเมืองไปต่อ” นายอุตตม กล่าว
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐเสียใจที่สุดที่พาพล.อ.ประยุทธ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคมายืนบนเวทีนี้ มาพบพี่น้องชาวโคราช ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านไม่ได้ เพราะเขาไม่ยอมให้มา แต่ท่านบอกไม่เป็นไร ให้พวกตนมาแทน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ คือการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของประเทศ เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองติดหล่ม เกิดการแบ่งแยก แบ่งสี แบ่งฝ่าย ดังนั้นวันนี้สิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องตัดสินใจ คือ ต้องเลือกไม่ให้บ้านเมืองกลับไปเหมือนเดิม เนื่องจากหากขัดแย้งนโยบายอะไรก็เดินหน้าต่อไม่ได้ หากอยากเห็นพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อยากเห็นประเทศเดินหน้าต่อ พวกตนอาสาทำให้ แต่ชาวโคราชก็ต้องร่วมพาประเทศก้าวข้ามไปด้วยกัน โดยเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 14 เขต
“วันนี้มีแกนนำตั้ง 3 ขั้ว คือ พรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศเอาคนโคราช อย่างพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคที่ 2 คือพรรคที่ถูกครอบงำ ไม่รู้ใครเป็นหัวหน้าตัวจริง ซึ่งไม่ขอพูดถึง และอีกพรรคคือประชาธิปัตย์ที่ล่าสุด ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้จึงมาถึงจุดที่พวกเราต้องช่วยกัน เพราะหากบ้านเมืองเป็น สามขั้วแบบนี้ หลังเลือกตั้งประเทศคงเดินต่อไม่ได้ ซึ่งพรรคเราไม่ปราถนา เนื่องจากประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องเห็นแก่ประชาชน วันนี้ผมจึงวิงวอนว่า อย่าให้ใครเอาเราเป็นเครื่องมือ อย่าให้ใครมาหลอกเราอีก ขอพี่น้องพาประเทศไทยไปกับพรรคพลังประชารัฐ เลือกลุงตู่เป็นนายกฯ เลือกพลังประชารัฐทั้งจังหวัด”นายสนธิรัตน์ กล่าว
ขณะที่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งตนเองมาฝังตัวที่จ.นครราชสีมาเป็นเดือน เพราะเห็นความสำคัญของโคราช ที่ต้องการทำให้โคราชดีกว่านี้ รวมถึงโคราชเป็นบ้านเกิดของพล.อ.ประยุทธ์ แคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นลูกหลานย่าโม วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ อยากเดินทางมาด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถมาได้ จึงส่งอดีต 4 รัฐมนตรีมาพบกับประชาชน พร้อมเขียนกลอนมาฝากด้วยตัวเอง ซึ่งกลอนมีชื่อว่า พลังประชารัฐ จากนั้นนายสุวิทย์ อ่านกลอนที่พล.อ.ประยุทธ์ เขียนมาฝากชาวโคราช ว่า "จากใจถึงใจ ไทยทุกผู้ เรารวมอยู่เป็นชาตินานนักหนา ทั้งบ้านเรือนก่อสร้างพัฒนา เพื่อวันนี้วันหน้า เชื่อมโยงกัน อยากจะให้ มีใคร จิตอาสา ประชารัฐ พัฒนา อย่างสร้างสรรค์ ทั้งคนรวย รายได้น้อย คอยช่วยกัน สร้างสวรรค์ แผ่นดินทอง พี่น้องไทย อย่ายอมให้ คนพาล มาผลาญชาติ ป่าวประกาศ ศักดิ์ศรี ที่ไหนไหนมให้โลกรู้ แผ่นดินนี้ มีคนไทย ทั้งรุ่นใหม่ รุ่นเก่า พร้อมยอมพลี หวังเพียงให้ เกิดพัฒนา นำพาชาติ กวาดบ้านเมือง ให้สะอาด เกิดสุขขี เราจะพร้อม ยอมตาย สามัคคี แผ่นดินนี้ พลังประชารัฐ รวมคนไทย"
ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า ขอเชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล ปลดหนี้ให้กับประชาชนที่เป็นหนี้กองทุนหมู่บ้าน ผ่านนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ คือพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ผ่านการตั้งกองทุนประชารัฐ หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท สำหรับสาเหตุที่ตนต้องกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง เพราะเห็นความยากจนของประชาชน ที่สำคัญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มาขอให้ช่วยกันทำงานเพื่อประเทศ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดี ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ
ส่วนนายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองก็เป็นชาวโคราช เพราะครอบครัวเป็นคนโคราช รวมถึงตนก็เคยบวชแถวนี้ จึงมาขอเสียงชาวโคราช และแม้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มา แต่ได้ยินเสียงประชาชน ขณะเดียวกันพรรคพลังประชารัฐเริ่มมาเป็นระยะเวลา 4 เดือน แต่ทุกโพลคะแนนไม่ลำดับ 1 ก็ลำดับ 2 เพราะมีนโยบายต่างๆที่ตอบโจทย์ประชาชน อาทิ บัตรประชารัฐ พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 5 ปี มารดาประชารัฐ สปก.4.0 ช่วยค่าเก็บเกี่ยวข้าว รวมถึงจากนี้จะช่วยคนจนที่ไม่มีบ้าน ด้วยการเดินหน้าบ้านล้านหลัง บ้านมั่นคง บ้านพอเพียง.