ข่าวปชป.ย้ำชัดไม่เอา'บิ๊กตู่' แต่แง้ม'พปชร.'ถ้าไม่สืบทอดอำนาจ - kachon.com

ปชป.ย้ำชัดไม่เอา'บิ๊กตู่' แต่แง้ม'พปชร.'ถ้าไม่สืบทอดอำนาจ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรค แถลงจุดยืนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง  ว่า  การที่ตนประกาศว่าไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกนั้น เป็นการพูดในฐานะหัวหน้าพรรค และเป็นอุดมการณ์พรรคที่ต้องการทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ผู้เลือกตั้งมีสิทธิได้รับทราบจุดยืนของแต่ละพรรค ถ้าการประกาศครั้งนี้จะทำให้เสียคะแนน ตนก็ยินดี แต่เรื่องนี้จะไม่นำไปสู่ความขัดแย้งใด และไม่ได้บังคับให้ใครเลือกข้างหรือตัวบุคคล เพราะอนาคตของประเทศเกินเลยไปกว่าเรื่องตัวบุคคล  พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาล และต้องอยู่ภายใต้พื้นฐานอุดมการณ์ของพรรค คือ ไม่เอาการทุจริตและการสืบทอดอำนาจ แต่การจัดตั้งรัฐบาลก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะดูผลการเลือกตั้งก่อน สำหรับพรรคเพื่อไทยยังมีอะไรเปลี่ยนแปลง และยังไม่ออกมาจากการครอบงำของคนกลุ่มเล็กๆที่มีผลประโยชน์ขัดกับผลประโยชน์ของคนในประเทศ  เราจะไม่ยอมให้เขาร่วมรัฐบาลด้วย ขณะเดียวกัน ตนไม่ตกหลุมพรางของพรรคเพื่อไทยที่จะสร้างกระแสให้เราร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะถ้าพรรคพลังประชารัฐคิดสืบทอดอำนาจ เราก็ไม่ร่วมด้วย

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า  ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ถ้าจะเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล เขาต้องไม่มีการสืบทอดอำนาจ ทั้งตัวบุคคลคือพล.อ.ประยุทธ์ และมรดกที่ขัดกับหลักประชาธิปไตย คือ คำสั่งและประกาศ ของ คสช.ที่ ขัดกับหลักประชาธิปไตยและนโยบายของพรรค ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าไปสะสางอยู่แล้ว ส่วนเงื่อนไขอื่นๆ ตนยังนึกไม่ออกว่าถ้าเขาไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ แล้วเป็นอย่างไร เพราะผู้บริหารของพรรคเขาหลายคนก็ไม่ได้ลงสมัครเป็นส.ส. ซึ่งหากคนของเขาเข้าสภา เขาจะมีตัวหลักอยู่ที่ ส.ส.



นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนไม่มีปัญหาส่วนตัวกับ พล.อ.ประยุทธ์ และเคยผูกพันจากที่เคยทำงานด้วยกันมาในช่วงที่ยากลำบาก ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์เคยให้ช่วยแก้ปัญหาในตอนที่ตนเป็นนายกฯ และปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนขอบคุณที่พล.อ.ประยุทธ์พยายามทำให้ประเทศสงบ แต่การตัดสินใจของตนครั้งนี้จะเอาความสัมพันธ์ส่วนตัวมารวมไม่ได้ ต้องคิดถึงประเทศในระยะยาว โดยตนยืนยันว่าความขัดแย้งในอนาคตจะเกิดขึ้นได้ ถ้ามีการสืบทอดอำนาจ และพล.อ.ประยุทธ์ถือเป็นศูนย์กลางของเงื่อนไขความขัดแย้งที่ง่ายที่สุดหลังการเลือกตั้ง ส่วนที่มีคำถามว่าหลังการเลือกตั้ง ถ้าไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ บ้านเมืองอาจเกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีกหรือไม่นั้น ตนคิดว่าสถานการณ์ในประเทศกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้เรียนรู้ และไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายอีก ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงพร้อมทำงานให้ไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก

“ผมแปลกใจว่าได้พูดชัดขนาดนี้ แต่กลับกล่าวหาว่าผมกั๊ก ผมขอเปรียบเทียบกับคำตอบของพรรคอนาคตใหม่ในเวทีดีเบตที่เคยบอกว่าถ้าพรรคพลังประชารัฐบอกว่าจะไม่สืบทอดอำนาจ ไม่เอาคสช. ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อนาคตใหม่ยังร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐได้ แต่ทำไมเวลาผมพูดแบบเดียวกัน กลับถูกมองว่ากั๊ก ทั้งที่ผมมีพรรคอนาคตใหม่เป็นเพื่อน เพราะเป็นคำตอบเดียวกันบนเวทีดีเบต”นายอภิสิทธิ์ กล่าว  

เมื่อถามว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่กลับเป็นพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราต้องการประกาศตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้าน แต่ถ้าพรรคไม่ได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เราพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นภาคประชาธิปไตยสุจริต และตนขอเตือนว่าถ้าใครยังเชื่อว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเพียงวาทกรรม ประเทศจะกลับมาเกิดวิกฤติอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าถ้าในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี มีส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์บางคนไปยกมือเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคอื่น พรรคจะจัดการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  พรรคจะต้องดำเนินการกับคนที่ไม่รักษาอุดมการณ์ของพรรคอยู่แล้ว เพราะถือว่าขัดกับข้อบังคับพรรคอยู่แล้ว ตนมั่นใจว่าสามารถจัดการได้ ไม่มีงูเห่าแน่นอน.