ข่าวปชป.ไม่เอา'บิ๊กตู่'ลั่นพรรคต้องเป็นแกนไม่ใช่'อะไหล่' - kachon.com

ปชป.ไม่เอา'บิ๊กตู่'ลั่นพรรคต้องเป็นแกนไม่ใช่'อะไหล่'
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เป็นนายกฯอีก  ว่า ตนขอสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจในความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว การประกาศจุดยืนนี้ คือการประกาศหลักการสำคัญของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ถ้ารณรงค์หาเสียงแล้วไปยอมจำนนสนับสนุนคนอื่นซึ่งไม่ใช่หัวหน้าพรรค หรือคนในพรรคมาเป็นนายกฯ  สถาบันพรรคการเมืองจะถูกทำลาย หรือไม่ต้องมีก็ได้ เพราะหลักการนี้ในนานาอารายประเทศยอมรับ ขณะที่ตนไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ มานานแล้ว ตนยึดถือเสียงประชาชนเป็นใหญ่ที่บอกว่าเพียงพอแล้วกับการให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯบริหารประเทศมา 5 ปีเต็ม 

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  ขอสนับสนุนการแสดงจุดยืนนายอภิสิทธิ์ และประกาศชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์คือพรรคทางเลือกหลักในการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่พรรคอะไหล่หรือพรรคเฉพาะกิจ โดยพรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นหลักของประเทศสืบไปไม่ว่าเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน  ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่า 1.จุดยืนและหลักการที่ถูกต้องจึงจะเป็นหลักของประเทศและประชาธิปไตย ทั้งวันนี้และวันหน้า 2.ความเด็ดเดี่ยวความกล้าหาญทางการเมืองอาจต้องแลกด้วยความพ่ายแพ้ ซึ่งความไม่กลัวแพ้เพื่อวางฐานรากประชาธิปไตยจะทำให้ประเทศชนะ 3.เราต้องเชื่อว่าความดี ความสุจริต ความถูกต้องจะชนะทุกสิ่ง  ดังนั้นวันที่ 24 มี.ค.ที่เป็นวันเลือกตั้งจึงควรเป็นการเริ่มต้นใหม่ของประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน รอบครัวใดมิใช่หรือ

“ทางเดินที่พวกเราเลือกคือ ซื่อสัตย์ต่อหลักการประชาธิปไตย เหมือนที่ผมเลือกกลับมาพรรคประชาธิปัตย์แทนที่จะเลือกอำนาจและผลประโยชน์ของการเมืองระบบเก่า  ด้วยความเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นหลักของแผ่นดินนำประเทศเดินไปข้างหน้าบนวิถีทางประชาธิปไตยแก้ไขในสิ่งผิดและเปลี่ยนแปลงประเทศสู่อนาคตที่ดีกว่า  วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าพรรค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”ได้ทำสิ่งที่ควรทำเพื่อประเทศชาติแล้ว”นายอลงกรณ์ กล่าว

ด้านนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ปราศรัยทวงบุญคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าหากไม่ได้เขาไม่รู้ชาติหน้านายอภิสิทธิ์จะได้เป็นนายกฯหรือไม่  ว่า  ตอนนั้นนายสุเทพเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเขาเป็นผู้จัดการรัฐบาลในการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าเป็นความสำเร็จของนายสุเทพ ซึ่งเราไม่ได้ปฏิเสธความจริงในข้อนี้ แต่เมื่อสถานการณ์เดินมาขนาดนี้สิ่งที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศชัดว่าไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อ ก็เป็นหลักและอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์  เชื่อว่าถ้านายสุเทพยังอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงพูดเหมือนหัวหน้าพรรค ดังนั้นเราไม่ขอตอบโต้

เมื่อถามว่าอย่างนี้พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถร่วมงานกับพรรค รปช.ได้หรือไม่ นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า เรามีความเห็นต่างกันในเรื่องการสนับสนุนบุคคลเป็นนายกฯ นายสุเทพพูดไปเพราะท่านประกาศชัดตั้งแต่แรก ตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งพรรคด้วยซ้ำว่าหนุนพล.อ.ประยุทธ์ ถ้าใครไม่หนุนก็อยู่ตรงนี้ไม่ได้ ซึ่งก็เป็นธรรมดา ไม่อยากพูดอะไรมาก

“ผมเข้าใจท่านนะว่าท่านอาจจะรัก พล.อ.ประยุทธ์มากกว่าใครไปแตะต้องไม่ได้ ก็เป็นสัจธรรมเมื่อรักมาก เศร้าเสียใจมาก โกรธมากเมื่อสิ่งนั้นถูกพรากออกไป ก็เลยรับไม่ได้”นายนิพิฎฐ์ กล่าว

นายนิพิฎฐ์ กล่าวต่อว่า ประชาชนต้องแยกระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับพรรคพลังประชารัฐ (พปรช.) ให้ออกจากกัน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พูดบนสมมติฐานว่า ถ้าประชาธิปัตย์ได้เสียงมากกว่าพปชร.พรรคที่มาร่วมด้วยก็ต้องสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯแต่ถ้าพปชร.ได้คะแนนมากว่าประชาธิปัตย์  ถ้าเราไปร่วมกับเขา ก็ต้องสนับสนุนคนของเขา ซึ่งก็เป็นธรรมดา แต่เรามั่นใจว่าเรามีคะแนนมากกว่า.