ข่าว'บิ๊กป้อม'ให้กำลังใจคนสตูล-พัทลุง หลังเจอบึ้มป่วนเมือง - kachon.com

'บิ๊กป้อม'ให้กำลังใจคนสตูล-พัทลุง หลังเจอบึ้มป่วนเมือง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 11 มี.ค. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม พร้อมคณะประกอบด้วย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และพล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อรับทราบรายงานสถานการณ์และให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดป่วนเมือง โดยกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงในพื้นที่ จ.สตูล และ จ.พัทลุง ที่ผ่านมา โดยตรวจความเสียหายและรับฟังสถานการณ์ในพื้นที่ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ให้ความเชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งเป็นกำลังใจกับประชาชน ครู และนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ ณ โรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร ต่อจากนั้นได้เดินทางไปดูความเสียหายในพื้นที่ อ.เมือง จ.สตูล และรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในภาพรวม ที่ศาลากลาง จ.สตูล ซึ่งโดยภาพรวมประชาชนในพื้นที่ จ.สตูล และจ.พัทลุง ร่วมกันสะท้อนถึงความต้องการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและรังเกียจการกระทำที่ป่าเถื่อนใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้น



พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า สถานการณ์โดยสรุป พบความเคลื่อนไหวการก่อเหตุโดยคาดว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลเป้าหมายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนชายแดนภาคใต้ที่ออกไปก่อเหตุนอกพื้นที่ หลังจากฝ่ายความมั่นคงได้ระดมกวาดล้างอิทธิพลจากยาเสพติดและธุรกิจเถื่อนในพื้นที่ รวมทั้งเปิดปฏิบัติการเชิงรุกในพื้นที่ป่าภูเขาและตรวจเข้มแนวชายแดนต่อเนื่องที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายขบวนการเพิ่มเติม ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ร่วมกันดูแลสถานการณ์ในพื้นที่จนมีพัฒนาการดีขึ้นตามลำดับ โดยขอให้อดทนในการทำงานและใช้ความเมตตากับกลุ่มคนที่ยังเห็นต่างและใช้วิธีการรุนแรงสร้างความเสียหายกับสถานที่ ระบบเศรษฐกิจ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ผ่านมา พร้อมกับย้ำให้ตำรวจเร่งรัดติดตามความคืบหน้าของคดี นำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และให้ทุกส่วนราชการประสานการทำงานร่วมกับภาคประชาชน และผู้นำในพื้นที่ทุกระดับอย่างใกล้ชิด ร่วมกันเฝ้าระวังและพัฒนาระบบตรวจสอบป้องกันในพื้นที่ ทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมและขยายเครือข่ายงานข่าวภาคประชาชนให้ครอบคลุมการดูแลความปลอดภัยในทุกพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันต้องระวังไม่ตกเป็นเครื่องมือในการสร้างเงื่อนไขใหม่  พร้อมทั้งให้จับตาและติดตามความเชื่อมโยงกับกลุ่มอิทธิพลและผลประโยชน์เดิมในพื้นที่อย่างใกล้ชิด สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งทางกายภาพและจิตใจของประชาชน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายกับประชาชนในทุกพื้นที่ให้ทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติสุขโดยเร็ว