ข่าว'กฤษฎา'สั่งเช็กเครื่องบินฝนหลวงฯ เตรียมพร้อมช่วยภัยแล้ง - kachon.com

'กฤษฎา'สั่งเช็กเครื่องบินฝนหลวงฯ เตรียมพร้อมช่วยภัยแล้ง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผย ได้รายงานให้นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์รับทราบถึงผลการตรวจสอบเครื่องบินฝนหลวง รุ่นซีเอ็น 235 ซึ่งเป็นลำที่นำคณะของนายกฤษฏา พร้อมผู้บริหารกระทรวง และสื่อมวลชน รวม21 คน มาจากสนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่1 มี.ค.เพื่อไปเปิดพิธีฤดูกาลทำฝนหลวง ปี62 ที่สนามบินเกษตร จ.นครสวรรค์ เกิดขัดข้องกลางอากาศ ระหว่างนำเครื่องบินลงแบบฉุกเฉิน ว่า สาเหตุเกิดจากเครื่องบินประสบปัญหา โหมดซีเร็กเตอร์สวิทช์ไม่ทำงาน ชำรุดบกพร่อง ซึ่งมีหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้าภายในเครื่องบิน เมื่อโหมดเกิดชำรุด ทำให้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากตัวแหล่งกำเนิดไฟฟ้าไม่ทำงานไม่สามารถชาร์ทเข้าระบบแบตเตอรรี่เข้าภายในระบบอากาศยาน นักบินจึงทำการบินวน3รอบ  กระบวนการทุกอย่างต้องใช้แมนนวนทั้งหมด โดยเฉพาะระบบกางล้อ ซึ่งทำได้โดยการประสานงานกับภาคพื้น และหอบังคับการบิน อย่างทันท่วงที ทำให้ลงได้ปลอดภัย แต่เกิดล้อยางแตก 1ล้อ ขณะนี้ได้ดำเนินการเปลี่ยนโหมดซีเล็กเตอร์สวิทช์ และล้อยาง เรียบร้อยแล้ว

"ทั้งนี้นายกฤษฎาจึงสั่งการให้นำเครื่องบินลำนี้ไปเสริมปฏิบัติการฝนหลวง จ.อุดรธานี เพราะภาคอีสานประสบภัยแล้งค่อนข้างมาก เพื่อเร่งเติมน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนห้วยหลวง มีน้ำน้อยมาก โดยจะไปปฏิบัติการทำฝนหลวงและรับมือพายุลูกเห็บมีแนวโน้มเกิดในพื้นที่ภาคอีสาน ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.เป็นต้นไป พร้อมกำชับให้มั่นตรวจสอบเครื่องบินฝนหลวงทุกลำดีๆเพราะต้องทำงานกับสารเคมีสั่งให้เอาเครื่องนี้ไปช่วยทำฝนแก้ภัยแล้งทางภาคอีสาน หลังจากซ่อมแซมเสร็จแล้ว พร้อมกับติดตามบรรเทาภัยแล้งทั่วประเทศ ทั้งนี้เครื่องบินลำใหม่จะมาราวๆเดือนก.ค. 1 ลำเป็นเครื่องcasa ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนเป็นกำลังใจให้กับนักบินฝนหลวงและการปฏิบัติภารกิจตลอดมา แม้ว่าเครื่องบินฝนหลวง มีอายุการใช้งานมากกว่า20ปีและการบำรุงรักษาตามระยะถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานใช้งานได้ปลอดภัย”นายสุรสีห์ กล่าว

สำหรับแผนปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง9หน่วยทั่วประเทศ ได้ติดตามบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐานเมื่อวานนี้ หน่วยฝนหลวง หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ตัดสินใจขึ้นปฏิบัติการ เลี้ยงเมฆเพื่อเป็นเมฆฝนไปตกในพื้นที่เป้าหมาย ป่าพรุโต๊ะแดง ป้องกันไฟไหม้ป่าพรุ แต่น่าเสียดาย เมฆไม่พัฒนาตัวเป็นฝน

ทั้งนี้การติดตามสภาพอากาศวันนี้ พบว่ามีปัญหาฝุ่นละอองหลายจังหวัดภาคกลาง เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เกิดจากปัญหาไฟไหม้ป่าจ.ราชบุรี แต่พบว่าค่าความชื้นระดับเกิดเมฆน้อยมาก ค่ายกตัวเป็นบวก อากาศทรงตัวมาก โดยมีพื้นที่เป้าหมายเติมน้ำเขื่อนกระเสียว ทับเสลา และความเพิ่มชื้นการเกษตร ล่าสุดมีพื้นที่ประสบภัยแล้งมากขึ้น เช่น อ.บ่อพลอย กาญจนบุรี ภาคตะวันออก ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศน้อย หากโปรยสารฝนหลวงก็ไม่สามารถก่อเมฆได้ ติดตามสภาพอากาศระหว่างวัน โดยอาสาสมัครฝนหลวง ได้ส่งภาพก้อนเมฆ เข้ามาช่วยในการตัดสินใจขึ้นบิน 

ภาคเหนือ ปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน เริ่มส่งกระทบต่อสุขภาพประชาชน และมีจุดความร้อน จุดเผากระจายตัวอย่างมาก เป็นสาเหตุส่งผลค่าฝุ่นละออง แถบประเทศพม่า มีจุดเผา ติดกับ จ.เชียงราย ค่าพีเอ็ม2.5 มากถึง 100 ไมโครกรัม ต่อลบ.ม.ซึ่งการติดตามสภาพอากาศ พบว่าค่าความชื้น และค่ายกตัวไม่เอื้อต่อการทำฝนหลวง ลดค่าฝุ่นละออง และยังติดตามสภาพอากาศเพื่อช่วยเหลือพื้นที่เกษตร ประสบภัยแล้ง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เติมน้ำเขื่อนแม่หมอก พื้นที่เกษตร จ.กำแพงเพชร พร้อมสแตนบายเครื่องบินซูปเปอร์คิงแอร์ไว้สองลำ ที่หน่วยฝนหลวง จ.พิษณุโลก หากสภาพอากาศเหมาะสมพร้อมขึ้นทันที ในส่วนภาคอีสาน ความชื้นน้อย ดัชนีการยกตัวเป็นบวกถึง9.1 โอกาสพัฒนาตัวของก้อนเมฆแทบเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามหากเข้าเงื่อนไข ก็พร้อมปฏิบัติการแก้ไขภัยแล้ง ในจ.นครราชสีมา ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ และให้ความสำคัญเพิ่มน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ลุ่มน้ำจ.สกลนคร.