ข่าว'บิ๊กตู่'ยันเป็นคนตลก-หัวเราะยิ้มง่าย - kachon.com

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ขอเวลารวบรวมสติและอารมณ์ เพราะการเป็นนายกฯ ของประเทศนี้ต้องไร้ความรู้สึก โมโหใครไม่ได้ ตนพยายามลดบทบาทในการเป็นทหารให้มากที่สุด เพราะห่วงสุขภาพตัวเองเหมือนกันหากเครียดมากๆเป็นอะไรไปอีกครอบครัวคงลำบาก สำหรับภาพตนเองในลุคส์ต่างๆ ในโซเซียลนั้น อยากบอกว่าความจริงแล้วหลายคนไม่รู้จักตน ที่เวลาทำงานจะเอาจริงเอาจัง ไม่มีรอยยิ้ม แต่เวลาอิสระที่อยู่กับเพื่อนและครอบครัวจะเป็นคนตลก เหมือนที่มีหลายคนบอกนายกฯ เป็นคนตลก ซึ่งตนสามารถพูดตลกได้ แต่ด้วยภาระหน้าที่บางครั้งก็ปรับอารมณ์ไม่ทัน จึงขอให้เห็นใจกันบ้าง โดยสิ่งที่ซีเรียสอย่างเดียวคือการทำงานที่ต้องเอาจริงเอาจัง เพราะปัญหาไม่จบสิ้น และถือว่าระเบียบวินัยของในชาติและเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ ขอให้เข้าใจกันบ้าง ตนก็เป็นคนอารมณ์ดีหัวเราะและยิ้มง่าย เว้นแต่อยู่ที่พวกเราจะสร้างภาพลักษณ์ตนอย่างไร เวลาตนยิ้มๆ กลับไม่ค่อยออกข่าว แต่เวลาหงุดหงิดชี้ไม้ชี้มือกลับนำไปออก กลายเป็นคนมองเป็นเผด็จการ

นายกฯ ยังกล่าวถึงลงพื้นที่ไปพบกับประชาชนว่า ในทุกโอกาสตนก็อยากไปพบประชาชน ที่ผ่านมาอาจเก็บเนื้อเก็บตัวบ้าง เพราะไม่อยากเป็นภาระเรื่องการรักษาความปลอดภัยและการใช้ยานพาหนะต่างๆ ที่จำนวนมากเกินไป เพราะหากไปที่ไหนคนก็จะเห็นอยู่แล้วและรู้จักตนหมด จึงไม่อยากให้ปั่นป่วน ซึ่งส่วนตัวอยากไปนั่งรับประทานกาแฟ เพื่อจะได้รู้การค้าขายเป็นอย่างไร แต่อาจทำให้คนที่มาท่องเที่ยวลำบาก ยืนยันไม่ใช่คนถือตัวและไม่ใช่คนเจายศเจ้าอย่าง แต่จะพยายามทำทั้งวันนี้และวันต่อไปหากมีโอกาส อย่างไรก็ตามในการลงพื้นที่หาเสียงนั้น แม้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะระบุว่าให้สามารถไปไหนมาไหนได้ แต่ก็ตนก็ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย แม้ทำงานตามหน้าที่อยู่แล้ว แต่ในฐานะเป็นตัวเลือกก็ต้องพิจารณาตัวเองว่าอำอะไรได้แค่ไหน เพราะไม่อยากให้มีการฟ้องร้องและปัญหาตามมาในอนาคต ทั้งนี้ขอให้ลดลาวาศอกกันบ้างในช่วงนี้ หากจับจ้องทุกเรื่องสิ่งดีๆ ไม่เกิดขึ้น เหมือนกับที่ออกสื่อทุกช่องในขณะนี้เป็นความขัดแย้งทั้งสิ้น แต่ตนจะไม่ไปขัดแย้งด้วย และตั้งใจทำให้ประเทศชาติปลอดภัย 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ส่งบทกลอนไปยังเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐว่า ตนเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนอยู่แล้ว ส่วนใครจะนำไปใช้ประโยชน์ก็นำไปใช้ได้ในฐานะเป็นนักกลอนคนหนึ่ง คนอื่นยังทำอะไรต่างๆได้ แต่กลับจ้องที่นายกฯ ซึ่งตนพยายามแยกบทบาทตัวเองให้ชัดเจน โดยยอมรับว่าเป็นเรื่องยากการเป็นนายกฯ ของประเทศนี้ ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้คนที่มาจากการเมืองก็มีการหาเสียงกันโครมๆ ตนเป็นทหารยังเคยไปดูแลให้เลย.