นายกฯย้ำให้ข่าวบึ้มใต้เมื่อพร้อม หวั่นคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหว
การเมือง
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรั กษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุ มคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีพบการปักป้ายผ้าที่พ่นสี เป็นข้อความว่า “110 tahun tergadainya bangsa patani” ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “110 ปีการจำนองชาติพันธุ์ปัตตานี” ตามริมถนหลายแห่งในจ.ยะลา และนราธิวาส ว่า เราต้องตรวจสอบว่าผู้กระทำการดั งกล่าวมีจุดประสงค์อย่างไร ทั้งนี้ การครบรอบดังกล่าวเป็นเรื่ องในอดีต อะไรก็ตามที่เป็นประวัติศาสตร์ ตนก็ขอให้เป็นเรื่องประวัติ ศาสตร์ วันนี้ประวัติศาสตร์ที่ดีก็เป็ นสิ่งที่ทุกคนยังภาคภูมิใจ แต่เรื่องใดเป็นประวัติศาสตร์ที่ ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือมีปัญหาบ้าง ตนขอให้เป็นเรื่องของอดีตที่ผ่ านมา ส่วนเวลานี้เราต้องแก้ไขเรื่ องของวันนี้ เพราะสิ่งที่ดีที่เราทำในวันนี้ จะเป็นประวัติศาสตร์ที่ดี ในอนาคต ซึ่งทุกคนต้องคิดอย่างนี้ ทุกอย่างที่เราทำในวันนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้ นในประเทศไทย ถือเป็นประวัติศาสตร์ ของประเทศไทยในอนาคต
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการก่อเหตุความไม่ สงบในภาคใต้ที่เริ่มขยายวงขึ้น โดยมีการลอบวางระเบิดที่จ.พัทลุ งและสตูล ว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเรื่ องดังกล่าว และมีความคืบหน้า ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปยัง จ.พัทลุงและสตูล ในนามของตน เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่ วยงานฝ่ายความมั่นคง ซึ่งเน้นมาตรการเชิงป้องกันให้ ได้มากที่สุด ทั้งการรักษาความปลอดภัยสถานที่ ราชการ และผู้ประกอบการธุรกิจ มีการดูขึงพืดทั้งหมด เพราะเดิมไม่เคยเกิดเหตุการณ์ ในพื้นที่เหล่านี้ และต้องแจ้งเตือนไปในทุกพื้นที่
“อยากให้ลองคิดดูว่าถ้าเราต้ องการรู้ความคืบหน้าทุกเรื่อง ทุกคดี ฝ่ายที่ก่อการเขาก็รู้หมด จึงอยากให้เข้าใจ แต่ยืนยันว่ามีความคืบหน้า และจะมีการให้ข่าวเป็นระยะ เมื่อพร้อมที่จะให้ข่าวได้ และไม่มีผลกระทบต่อการสืบสวน สอบสวน เราต้องดำเนินการให้รัดกุมมากที่ สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดเหตุการณ์อย่ างนี้ มันพร้อมที่จะเกิดขึ้นได้ทุกพื้ นที่ ซึ่งก็เหมือนทุกประเทศ ประเทศเรามีทั้งคนดีและไม่ดี สิ่งสำคัญต้องมีจิตอาสาที่มาช่ วยคอยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ ฝ่ายรัฐเพื่อให้ประเทศสงบ และไม่ควรไปขยายความ เพราะเขาต้องการให้ความรุ นแรงได้ขยายความต่อไป เพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่เขาทำนั้ นมีน้ำหนัก มีบทบาทในการทำเรื่องนี้มากขึ้ นๆ เพื่อบังคับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งตรงนี้ถือว่าอันตราย”.
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการก่อเหตุความไม่
“อยากให้ลองคิดดูว่าถ้าเราต้