ข่าวอุทยานฯสั่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้'กับดัก' สัตว์ป่าทั่วประเทศ - kachon.com

อุทยานฯสั่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้'กับดัก' สัตว์ป่าทั่วประเทศ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ ร่วมกันค้นหา เก็บกู้ กับดักสัตว์ เช่น แร้ว ปืนผูก ตะปู หรืออุปกรณ์อื่นที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าในพื้นที่รับผิดชอบ แล้วนำออกจากพื้นที่ ทำให้พื้นที่นั้น เป็น “พื้นที่ปลอดกับดักสัตว์ป่า” ซึ่งปัจจุบันในบริเวณพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของไทย ยังพบว่า มีการใช้เครื่องมือดักสัตว์ป่า ประเภทบ่วงแร้วที่ทำด้วยเชือกและสลิง ปืนผูก และอุปกรณ์อื่น ๆ เป็นจำนวนมากในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตลอดจนพื้นที่ข้างเคียงพื้นที่อนุรักษ์ จากการลาดตระเวนเก็บกู้บ่วง แร้ว โดยบริเวณรอยต่อแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ท้องที่บ้านเขาวง บ้านคลองตะเคียน บ้านหลุมตาสังข์ บ้านเทพประทาน บ้านสามพราน บ้านมอทราย และบ้านหอตะแบก อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่14-16 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตรวจพบบ่วงเชือกรวม 149  เส้น และซากวัวแดง ซากกวางป่า และซากหมูป่า ชนิดละ 2 ซาก  การใช้เครื่องมือดักสัตว์ป่าดังกล่าวเป็นภัยคุกคามร้ายแรงอย่างยิ่งต่อสวัสดิภาพของสัตว์ป่า เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ประกอบได้ง่าย ใช้อุปกรณ์ที่หาได้โดยทั่วไป และสามารถอำพรางการตรวจตรา ของเจ้าหน้าที่ได้ไม่ยาก สัตว์ป่าเมื่อติดกับดักจะดิ้นด้วยความตกใจ ทุกข์ทรมาน ลักษณะของบ่วงที่ผูกนั้นเมื่อสัตว์ยิ่งดิ้นหรือยิ่งขยับ บ่วงจะยิ่งรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

“ช้างป่าบางตัวที่ติดบ่วงจะถูกรัดจนบาดลึกถึงกระดูกเกิดเป็นแผลเน่าเป็นสาเหตุให้ล้มตายได้ในที่สุด บางกรณีที่เจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ สามารถเข้าทำการช่วยเหลือและรักษาได้ทันท่วงที แต่ถึงกระนั้นช้างป่าที่ติดบ่วงแร้วนั้น จะพิการไม่สามารถเดิน หากิน หรือใช้ชีวิตอยู่ในป่าด้วยตัวเองตามปกติได้อีกต่อไปตลอดทั้งชีวิต เช่นกรณีของพังฟ้าแจ่มที่เจ้าหน้าที่ได้พบและช่วยเหลือไว้เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2559 ตั้งแต่ยังเป็นลูกช้าง ไม่หย่านม ซึ่งสัตวแพทย์ของหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันประสานการรักษาอย่างเต็มที่ จนถึงปัจจุบันพังฟ้าแจ่มปลอดภัยแล้ว แต่ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตในป่าได้อีกต่อไป เหตุการณ์ลักษณะนี้ยังคงเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ย.2561 -ต้นเดือนมี.ค.2562  สัตวแพทย์ได้ทำการช่วยเหลือช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนบ่วงดักสัตว์รัดอีกจำนวน5 ตัว” นายธัญญากล่าว 

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุดังกล่าว และเนื่องในโอกาสวันช้างไทย 13 มี.ค.ของทุกปี สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ จึงมีมาตรการรณรงค์ให้หน่วยงานต่างๆในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกันประกอบกิจกรรมค้นหา เก็บกู้ กับดักสัตว์ เช่น แร้ว ปืนผูก ตะปู หรืออุปกรณ์อื่นที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าในพื้นที่รับผิดชอบ แล้วนำออกจากพื้นที่ ทำให้พื้นที่นั้น เป็น “พื้นที่ปลอดกับดักสัตว์ป่า” มีระยะเวลารณรงค์ 1 สัปดาห์ระหว่างวันที่ 13-19 มี.ค.นี้โดยกำหนดให้วันช้างไทยเป็นวันเริ่มต้นแห่งการรณรงค์ ทั้งนี้ผลดำเนินการเป็นประการใด ให้รายงานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชต่อไป

ด้าน น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้าฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถิ่นอาศัย แหล่งอาหาร แหล่งน้ำ แหล่งดินโป่ง ลดน้อยลง เกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงปัจจัยเรื่องเสียง แรงสั่นสะเทือนจากถนนและกับดักสัตว์ป่าต่างๆซึ่งถือเป็นปัจจัยรบกวนสวัสดิภาพที่สำคัญ ทำให้ช้างป่าออกนอกพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ไม่รู้เรื่อง และชาวบ้านก็ต้องมาช่วยกันเป็นหูเป็นตากัน วันช้างไทยปีนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ออกมาตรการรณรงค์ให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินกิจกรรมค้นหา เก็บกู้ กับดักสัตว์ หรืออุปกรณ์อื่นที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าในพื้นที่รับผิดชอบ แล้วนำออกจากพื้นที่ ทำให้พื้นที่นั้น เป็นพื้นที่ปลอดกับดักสัตว์ป่า โดยขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนมาร่วมกันรณรงค์กับกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในการต่อต้านการวางกับดักสัตว์ป่าเพื่อสวัสดิภาพของสัตว์ป่าและลดปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ต่อไป.