'มาร์ค-เสี่ยหนู'พร้อมร่วมงานพรรคอื่น ย้ำไม่ประมาท'ธนาธร'
การเมือง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคมองเห็นเงื่อนไขที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยไม่ยั่งยืน คือการทุจริตคอร์รัปชั่น และการสืบทอดอำนาจที่นำปัญหาความขัดแย้งกลับมา ดังนั้นจึงเห็นว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือ ทางเลือกที่พรรคเสนอ คือประชาธิปไตยสุจริต จะทำให้การแก้ไขปัญหาประเทศไปได้ในระยะยาว
“ปชป.สามารถจับมือกับพรรคพลังประชารัฐได้ แต่ต้องเลิกสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะจะต้องไม่มีแนวทางสืบทอดอำนาจ ผมอยากเห็นการเมืองตรงไปตรงมา ได้มาเวทีวันนี้พูดคุยเรื่องเศรษฐกิจประเทศ ผมดีใจ ทุกคนอยากจะเดินหน้าไปอย่างไร และการจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล ก็ถูกถามทุกวัน ถ้าไม่มีเงื่อนไขสืบทอดอำนาจ ก็สามารถจับมือกันได้ ไม่มีปัญหา เพราะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะทำให้เราเดินหน้าไปได้ระยะยาว ด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่ไม่มีความขัดแย้งในบ้านเมืองเกิดจากสืบทอดอำนาจขึ้นอีก”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ไม่กังวลต่อผลสำรวจความรวจความคิดเห็นของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ออกมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคอนาคตใหม่ มีคะแนนนิยมนำ พรรคปชป. ว่าโพลดังกล่าว เป็นการสำรวจเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ไม่ใช่โพลล่าสุด อย่างไรก็ตาม ตนและพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ประมาท แต่ก็จะไม่กังวลจนเกินไป เพราะมีรายงานจากในพื้นที่มาโดยตลอด และตนก็จะลงไปพบปะกับประชาชนในพื้นที่ภาคใต้อีกใน1-2วันนี้ ในส่วนการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่มีความเห็นอะไร
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ว่า พรรคภูมิใจไทยเคยพูดไว้ชัดเจนแล้วว่าจุดยืนของเราคือทำตามกติกาที่ดำรงไว้ในรัฐธรรมนูญทุกอย่าง และจุดยืนที่เด่นชัดอีกอย่างหนึ่งก็คือคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น พรรคภูมิใจไทยขอให้ใช้กติกาคือต้องได้รับฉันทานุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งหากเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้วก็ขอให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ทำตามมติของสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มาจากเสียงของประชาชน เพราะผ่านการเลือกตั้งเข้ามา โดยเมื่อสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกใครมาเป็นนายกฯแล้วก็น่าจะเป็นคนๆนั้น ไม่ใช่ใช้วิธีหรือกระบวนการอื่นมาบิดพลิ้ว ถ้าทำอย่างนั้นก็จะไม่ใช่หลักการประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยยืนยันชัดเจนใช่หรือไม่ว่าพรรคที่ไม่ได้คะแนนเสียงที่เสียงส.ส.ไม่พอแล้วนำเสียงส.ว.มาหนุน เพื่อเสนอนายกฯ พรรคภูมิใจไทยก็จะไม่สนับสนุนพรรคนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่าไม่ได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็จะกลายเป็นการยืดปัญหาออกไปเท่านั้นเอง ทางที่ดีที่สุดคือต้องจบกระบวนการทุกอย่างตั้งแต่ขั้นแรก หากเราได้นายกฯมาเพราะว่านับที่คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของทั้งสองสภาฯ หรือเสียงของสภาผู้แทนฯน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง แม้จะเป็นนายกฯได้ แต่ก็ปฏิบัติงานไม่ได้ ก็ไม่อยากจะให้เข้าไปในหลุม ไม่รู้เป็นความต้องการของใครที่จะให้เกิดความวุ่นวาย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือทำตามความต้องการของประชาชน เพราะเมื่อประชาชนเลือกผู้แทนเข้ามาแล้ว สิ่งใดที่ผู้แทนราษฎรตัดสินใจก็คือเสียงของประชาชน เพราะธรรมชาติแล้วไม่ควรมีอะไรที่จะไปขัดขวางได้
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ปิดกั้นที่จะทำงานร่วมกับพรรคการเมืองไหนก็ได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีปัญหา พรรคภูมิใจไทยไม่ได้บอกว่านายกฯต้องมาจากส.ส. ซึ่งนายกฯจะเป็นใครก็ได้แต่ต้องมาจากกรอบของรัฐธรรมนูญโดยคนที่เลือกนายกฯจะต้องเป็นส.ส.
เมื่อถามว่าหากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ได้เสียงอันดับที่หนึ่ง จะดำเนินการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า หากพรรคใดได้เสียงเกิน251 เสียงก็มีสิทธิที่จะเสนอชื่อนายกฯ แต่ไม่ใช่ว่ากลุ่มที่มีเสียงข้างมากส.ส. รวมกันไม่ถึง 376 เสียงแล้วตั้งนายกฯไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่เอา
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ขณะนี้ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนระบุว่าพรรคอนาคตใหม่มาแรง นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีความกังวล เพราะทุกคนก็มีหน้าที่ที่จะต้องรณรงค์และเสนอนโยบายที่ดีที่สุดกับพี่น้องประชาชน ซึ่งถือเป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย หากใครเสนอนโยบายที่ดีที่สุดก็ควรได้รับความไว้วางใจจากประชาชน.