พปชร.อุบตอบจับคู่ใครตั้งรัฐบาล ย้ำทำการเมืองเพื่อปชช.
การเมือง
Webmaster
2019-03-13 13:24:00
11
Webmaster
2019-03-13 13:24:00
11
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ดินแดง กทม. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาช่วยการหาเสียงและปราศรัยช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะช่วงโค้งสุดท้ายยังมีเวลาอยู่ ซึ่งทางพรรคกำลังหารือว่าจะมีกิจกรรมอะไรได้บ้าง ส่วนไม้เด็ดหรือเซอร์ไพร์สของพรรคในสัปดาห์นี้ ขอให้รอดู เพราะอาจจะเป็นการนำเสนอในเชิงนโยบาย ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวกับตัว พล.อ.ประยุทธ์โดยตรง จะเป็นนโยบายใหม่ของพรรคในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาที่สะสม พร้อมทั้งขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน และทั่วถึงคนไทยทั้งหมด
เมื่อถามถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองประกาศไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์นั้น นายอุตตม กล่าวว่า เรื่องการประกาศจุดยืนของพรรคการเมืองอื่นก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา แต่ในส่วนของพรรคเราเดินตามงานที่เราต้องทำและหน้าที่ที่เราเชื่อว่าวันนี้ต้องรับผิดชอบต่อพี่น้องคนไทย คือการนำเสนอนโยบายและคนของเรา เพื่อให้ประชาชนได้ไว้วางใจให้เราเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาล นั่นคืองานใหญ่ของเรา ดังนั้นการประกาศจุดยืนของพรรคการเมืองอื่นก็ประกาศได้ แต่ตนอยากถามว่าวันนี้ฝ่ายการเมืองทั้งหลายคิดว่าอะไรสำคัญที่สุดต่อประชาชน จำเป็นต้องตัดสินใจให้ประชาชนก่อนหรือไม่ว่าใครคู่อันไหน ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล
"ผมคิดว่าพรรคพลังประชารัฐรอได้ และรอวันที่ 24 มี.ค.นี้ ให้ประชาชนได้พูดออกมาก่อน เราต้องฟังเสียงว่าเขาอยากได้ใคร และเขาอยากเห็นใครมีบทบาท ซึ่งพรรคเรารอได้ วันนี้เราต้องมาพูดเรื่องนโยบายว่าจะทำอะไรให้พี่น้องประชาชน" นายอุตตม กล่าว
เมื่อถามว่า จุดยืนของพรรคหากในวันเลือกตั้งแล้วมีเสียงที่สูสี จะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร นายอุตตม กล่าวว่า ขอให้รอดู ซึ่งจุดยืนของเรามีตั้งแต่ต้น คือผลของการเลือกตั้งออกมาก็ยังไม่ช้าไปที่เราจะมาคิดกันว่าจะเป็นอะไร จะร่วมมืออะไรกับใครก็ต้องดูว่าองค์ประกอบมีอะไรบ้างและแนวนโยบายจะไปด้วยกันได้หรือไม่ ในเรื่องของการปฏิบัติพรรคต่างๆ มีการปฏิบัติและวางตัวอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วสำหรับของพรรค เมื่อถึงเวลานั้นจะแตะมือกับใคร เราก็มีแนวความคิดของเรา แต่ทุกอย่างต้องนำประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งไม่ใช่เพื่อเอาชนะกัน หรือแค่เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง อาจจะไม่ใช่แค่ว่าเป็นเพื่อนสนิทสนมกัน แต่ถ้าทำให้ประเทศเดินหน้าด้วยการมาร่วมงานกันเป็นรัฐบาลไม่ว่าใคร หรือจะไม่ร่วมก็ตามก็ต้องนำประชาชนเป็นหลักและประเทศเดินหน้าได้ ซึ่งต้องรอดูวันที่ 24 มี.ค.นี้
เมื่อถามย้ำว่า จะจับมือร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดเรื่องนั้น ขอให้รอผลออกมาก่อนว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อถามต่อว่า หากพรรคได้คะแนนเป็นอันดับที่ 2 เราได้มองพรรคพันธมิตรที่จะร่วมงานต่อไปหรือไม่ นั้นขอรอดูก่อนว่าแต่ละพรรคได้เสียงมามากน้อยแค่ไหน วันนี้พูดไปก็ยังเป็นการคาดการณ์และเป็นการใช้วาทกรรม ตนขอให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบผลประโยชน์ของประชาชนมากที่สุด
เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศจุดยืนพร้อมจะจับมือกับพรรค พลังประชารัฐ แต่ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จะยอมให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ยังเร็วไป เมื่อถึงเวลานั้นเหตุการณ์เป็นอย่างไรทางพรรคสามารถพูดคุยกันได้
เมื่อถามว่า วันนี้ได้ขึ้นเวทีดีเบตร่วมกันได้มีการพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ได้ทักทายกันบนเวที แต่ไม่ได้คุยกันนอกรอบ
เมื่อถามถึงการวิพากษ์วิจารณ์ผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ได้ตรวจสอบการบริจาคการจัดงานโต๊ะจีนระดมทุนพรรค เพื่อรับเงินบริจาคของพรรคพลังประชารัฐนั้น นายอุตตมกล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ แต่ในส่วนของตนไม่ขอชี้แจงคำวิจารณ์ เพราะยึดคำตัดสินของ กกต.เป็นหลัก.
เมื่อถามถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองประกาศไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์นั้น นายอุตตม กล่าวว่า เรื่องการประกาศจุดยืนของพรรคการเมืองอื่นก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา แต่ในส่วนของพรรคเราเดินตามงานที่เราต้องทำและหน้าที่ที่เราเชื่อว่าวันนี้ต้องรับผิดชอบต่อพี่น้องคนไทย คือการนำเสนอนโยบายและคนของเรา เพื่อให้ประชาชนได้ไว้วางใจให้เราเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาล นั่นคืองานใหญ่ของเรา ดังนั้นการประกาศจุดยืนของพรรคการเมืองอื่นก็ประกาศได้ แต่ตนอยากถามว่าวันนี้ฝ่ายการเมืองทั้งหลายคิดว่าอะไรสำคัญที่สุดต่อประชาชน จำเป็นต้องตัดสินใจให้ประชาชนก่อนหรือไม่ว่าใครคู่อันไหน ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล
"ผมคิดว่าพรรคพลังประชารัฐรอได้ และรอวันที่ 24 มี.ค.นี้ ให้ประชาชนได้พูดออกมาก่อน เราต้องฟังเสียงว่าเขาอยากได้ใคร และเขาอยากเห็นใครมีบทบาท ซึ่งพรรคเรารอได้ วันนี้เราต้องมาพูดเรื่องนโยบายว่าจะทำอะไรให้พี่น้องประชาชน" นายอุตตม กล่าว
เมื่อถามว่า จุดยืนของพรรคหากในวันเลือกตั้งแล้วมีเสียงที่สูสี จะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร นายอุตตม กล่าวว่า ขอให้รอดู ซึ่งจุดยืนของเรามีตั้งแต่ต้น คือผลของการเลือกตั้งออกมาก็ยังไม่ช้าไปที่เราจะมาคิดกันว่าจะเป็นอะไร จะร่วมมืออะไรกับใครก็ต้องดูว่าองค์ประกอบมีอะไรบ้างและแนวนโยบายจะไปด้วยกันได้หรือไม่ ในเรื่องของการปฏิบัติพรรคต่างๆ มีการปฏิบัติและวางตัวอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วสำหรับของพรรค เมื่อถึงเวลานั้นจะแตะมือกับใคร เราก็มีแนวความคิดของเรา แต่ทุกอย่างต้องนำประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งไม่ใช่เพื่อเอาชนะกัน หรือแค่เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง อาจจะไม่ใช่แค่ว่าเป็นเพื่อนสนิทสนมกัน แต่ถ้าทำให้ประเทศเดินหน้าด้วยการมาร่วมงานกันเป็นรัฐบาลไม่ว่าใคร หรือจะไม่ร่วมก็ตามก็ต้องนำประชาชนเป็นหลักและประเทศเดินหน้าได้ ซึ่งต้องรอดูวันที่ 24 มี.ค.นี้
เมื่อถามย้ำว่า จะจับมือร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดเรื่องนั้น ขอให้รอผลออกมาก่อนว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อถามต่อว่า หากพรรคได้คะแนนเป็นอันดับที่ 2 เราได้มองพรรคพันธมิตรที่จะร่วมงานต่อไปหรือไม่ นั้นขอรอดูก่อนว่าแต่ละพรรคได้เสียงมามากน้อยแค่ไหน วันนี้พูดไปก็ยังเป็นการคาดการณ์และเป็นการใช้วาทกรรม ตนขอให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบผลประโยชน์ของประชาชนมากที่สุด
เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศจุดยืนพร้อมจะจับมือกับพรรค พลังประชารัฐ แต่ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จะยอมให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ยังเร็วไป เมื่อถึงเวลานั้นเหตุการณ์เป็นอย่างไรทางพรรคสามารถพูดคุยกันได้
เมื่อถามว่า วันนี้ได้ขึ้นเวทีดีเบตร่วมกันได้มีการพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ได้ทักทายกันบนเวที แต่ไม่ได้คุยกันนอกรอบ
เมื่อถามถึงการวิพากษ์วิจารณ์ผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ได้ตรวจสอบการบริจาคการจัดงานโต๊ะจีนระดมทุนพรรค เพื่อรับเงินบริจาคของพรรคพลังประชารัฐนั้น นายอุตตมกล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ แต่ในส่วนของตนไม่ขอชี้แจงคำวิจารณ์ เพราะยึดคำตัดสินของ กกต.เป็นหลัก.
