ข่าวแพทยสภาฟัน'หมอ'ขายยาลดความอ้วน - kachon.com

แพทยสภาฟัน'หมอ'ขายยาลดความอ้วน
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. จากกรณีที่มีการเปิดเผยรายชื่อแพทย์ 2 คน ที่ตำรวจมีการตั้งข้อหาสมคบคิด ในการนำยาลดความอ้วนที่จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 คือ เฟนเตอร์มีน และประเภท 4 คือ อะซีแปม ผิดกฎหมาย ประกอบด้วยรายนายจอมพล มีศรี และ น.ส. บัณฑิตรา นาใจคง นั้นจากการตรวจสอบในฐานข้อมูลรายชื่อแพทย์จากเว็บไซต์ของแพทยสภา ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลจริยธรรมและมาตรฐานแห่งวิชาชีพ พบว่านายจอมพล หรือนพ.จอมพล เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเมื่อปี 2554 ยังไม่มีความเชี่ยวชาญทางด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนน.ส.บัณฑิตรา หรือพญ.บัณฑิตรา เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเมื่อปี 2555

นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า  หลังจากเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.)ทางแพทยสภา ได้ทำหนังสือ สอบถามขอรายละเอียดพฤติการณ์ ของ 2 หมอ ที่เกี่ยวกับ การลักลอบนำยาลดความอ้วน เฟนเตอร์มีน มาจำหน่ายนอกระบบ  เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการแพทยสภาในที่14 มี.ค. นี้ ซึ่งกรอบของการพิจารณา นั้น โดยทั่วไปแพทย์ที่กระทำความผิดตามกฎหมายบ้านเมือง จะถูกนำมาพิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง  และ เข้าสู่คณะกรรมการสอบจริยธรรมแพทย์  และหากถูกตัดสินตามกฎหมาย กรณีเป็นความผิดร้ายแรงก็มีโทษ ตั้งแต่ ภาคทัณฑ์พักใช้ใบอนุญาต และเพิกถอนใบอนุญาต

นพ.อิทธพร กล่าวว่า ขณะนี้ 2 หมอคนดังกล่าว ยังถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา และหากมีประจักษ์พยานชัดเจน ทางความผิดก็จะถูกลงโทษ กรณีแพทย์ลักลอบนำยาลดความอ้วนมาจำหน่ายทางอินเตอร์เน็ต ถือว่าเพิ่งพบเป็นกรณีแรก แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมามีการแอบอ้าง สวมชื่อแพทย์ ที่เสียชีวิตมาแล้ว มาลักลอบจำหน่ายยาก็มี ต้องดูมูลเหตุ ว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงแพทย์รุ่นใหม่ ให้มีความระมัดระวังในเรื่องนี้ เพราะ เรื่องการลักลอบจำหน่ายยาซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท ที่ 2 เข้าข่ายเป็นยาเสพติดมีโทษร้ายแรง  ส่งผลต่อประวัติส่วนตัว เกี่ยวข้องกับการศึกษาต่อ และส่งต่อครอบครัว และสถานศึกษา  เพราะในประวัติจะระบุชัด และติดตัวไป ซึ่งมีผลต่อการพิจารณาคัดเลือกศึกษาต่อแน่นอน อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนคิดหรือด่วนสรุปว่า แพทย์ทุกคนจะเป็นแบบนี้ ต้องเข้าใจว่า ปีหนึ่ง มีแพทย์ จบใหม่ 1,000 คน มีคนเป็นลักษณ์เช่นนี้น้อยมาก 

ด้าน นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงค์  อธิบดีกรมสนุบสนุนบริการสุขภาพ กลาวถึงการตรวจสอบคลินิกที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาลำความอ้วนผิดกฎหมายว่า ตอนนี้ เป็นการกล่าวโทษที่ตัวบุคคล ไม่ใช่การกล่าวโทษสถานพยาบาล แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ อยู่ระหว่างการรอรายละเอียดจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อน หากยังไม่เห็นข้อมูล ออกไปทำอะไรมากอาจจะกระทบกับรูปคดีได้ ทั้งนี้ทราบว่าทางอย.เองก็รอข้อมูลจากทางตำรวจเช่นกันว่าจะปล่อยข้อมูลออกมาให้มากน้อยแค่ไหน เพราะทางตำรวจเองก็ต้องกันข้อมูลบางอย่างเอาไว้ และกันไว้เป็นพยานเพิ่มเติมจึงต้องรอก่อน และยังไม่ทราบขั้นตอนว่าจะมีการขายยาที่ใด เพราะหากขายยาในสถานพยาบาลทำไม่ได้แน่นอน แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ช้าแน่นอน.