ข่าว'ตู่'ปลุกระดมคนเสื้อแดง-ฝ่ายปชต.ฮึดสู้เผด็จการ - kachon.com

'ตู่'ปลุกระดมคนเสื้อแดง-ฝ่ายปชต.ฮึดสู้เผด็จการ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว พรรคเพื่อชาติ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ นายอารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อชาติ และ นายรยุศด์ บุญทัน โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรค  แถลงถึงกำหนดการหาเสียงและปราศรัยใหญ่ พร้อมท่าทีต่อสถานการณ์ทางการเมือง

โดยนายรยุศด์ กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติเตรียมจัดปราศรัยใหญ่ 3 เวที ได้แก่ 1.วันอังคารที่ 19 มี.ค. นี้ จัดเวทีที่วงเวียนใหญ่ กทม. ในชื่อ “ภารกิจฝ่ายประชาธิปไตย ส่งประยุทธ์กลับบ้าน” 2.วันศุกร์ที่ 22 มี.ค. นี้ จัดเวทีที่สวนวชิรเบญจทัศน์ (สวนรถไฟ) กทม. ในชื่อ “ภารกิจสุดท้าย ปลุกคนไทย หยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ” และ 3.วันเสาร์ที่ 23 มี.ค.  จัดเวทีปราศรัยใหญ่ปิดท้าย ที่ลานตลาดคลองถม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ในชื่อ “เลือกเพื่อชาติ ปิดฉากเผด็จการ”  ทั้งนี้ พรรคเพื่อชาติไม่ได้มองจำนวน ส.ส. แต่มองแนวทางแก้ไขปัญหาประเทศเป็นหลัก เรามั่นใจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในฐานะพรรคของคนจน พรรคของประชาชน

ด้านนายจตุพร กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และอดีตเลขาธิการ กปปส. ปลุกให้ กปปส. สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ว่า การส่ง พล.อ.ประยุทธ์ กลับบ้านนั้นเป็นภารกิจของฝ่ายประชาธิปไตย ใหญ่กว่าที่พรรคใดพรรคหนึ่งจะสู้เผด็จการ ต้องขอความร่วมมือพรรคฝ่ายประชาธิปไตยกำหนดอนาคตประเทศไทยในระยะเปลี่ยนผ่านจะร่วมมือกันอย่างไร 

นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า ตนขอใช้สิทธิตามแนวทางสันติวิธี เรียกร้องมวลชนผู้รักประชาธิปไตยที่ต่อสู้ร่วมกันมา ร่วมออกมาเลือกข้างฝ่ายประชาธิปไตยให้มากที่สุด เคยชนะอย่างไร ให้ออกมาชนะอย่างนั้น ถ้าเรายังไม่มีการตั้งหลัก เห็นแก่เรื่องส่วนตัว เราจะไม่มีทางชนะฝ่ายเผด็จการได้ และพ่ายแพ้ต่อการสืบทอดอำนาจได้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ เราต้องออกมาร่วมกันแสดงพลัง ต้องไม่ชุมนุมหรือก่อความวุ่นวายใดๆ เป็นการปลุกประชาชนมาเข้าคูหาเลือกตั้ง เพราะกติกาที่ไม่ยุติธรรมต่างๆ เช่น ส.ว.ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งมาเลือกตัวเองเป็นนายกฯ ดังนั้นเป้าหมายที่ 1 ฝ่ายประชาธิปไตยเราต้องเดินไปถึง ส.ส. 376 เสียงให้ได้ แต่หากไม่ได้ เป้าหมายที่ 2 คือการเดินไปให้ถึงครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร คือ ส.ส. 251 เสียง จับมือกันให้แน่น ไม่ยินยอมต่อเผด็จการ ถ้าเราไม่คิดอย่างนี้ไม่มีวันชนะ เพราะเผด็จการสมคบคิดแบ่งกันทำชัดเจน

“ภายใต้กติกาเอาเปรียบทุกชนิด ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยยังตั้งหลักไม่ได้ก็ยากที่จะฝ่าฟันอุปสรรค ขอเรียกร้องประชาชน วันที่ 24 มี.ค.นี้ อยู่บ้านไม่ได้ ประชาชนคือผู้หยุดการสืบทอดอำนาจ หยุดความตาย หยุดความเสียหายประเทศ เราจะหวังพึ่งเพียงพรรคการเมืองไม่ได้ นายสุเทพรู้จึงปลุกมวลชนของตัวเองออกมา ขอย้ำว่าวันที่ 24 มี.ค.นี้ ขอให้พี่น้องเสื้อแดงทั้งหลายออกมาจัดการเผด็จการ เพื่อลูกหลาน เพื่อหยุดวงจรเลวร้าย ออกมาที่คูหาเลือกตั้ง ฝ่ายประชาธิปไตยต้องมองข้ามเรื่องของตัวเอง พรรคเพื่อชาติพรรคเดียวสู้ไม่ได้ต้องสามัคคีทุกฝ่าย หลายครั้งผมพลิกกลับมาชนะทั้งเหตุการณ์พฤษภา 2535 ส่วนพฤษภา 2553 ก็พลิกฟื้นสู่การเลือกตั้ง 2554 ได้ วันนี้ยังไม่แพ้แต่ชนะยาก หากเราไม่ตั้งหลักตั้งแต่วันนี้ เผด็จการจะพ่ายแพ้ต่อประชาชนเท่านั้น ใหญ่กว่าพรรคคือประชาชน จูงมือพี่น้องออกมาเลือกตั้งเหมือนที่พม่าออกมาเลือกอองซานซูจี”นายจตุพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เลือกปราศรัยใหญ่เวทีสุดท้ายที่สกลนคร นายจตุพร กล่าวว่า เราต้องการปิดท้ายที่ดินแดนของตำนานนักสู้ ครูครอง จันดาวงษ์ และพ่อแม่พี่น้องเรียกร้องให้ไปปราศรัยใหญ่ปิดท้ายที่นั่น

เมื่อถามว่าภารกิจส่ง พล.อ.ประยุทธ์ กลับบ้านนี้จะเรียกร้องอะไรไปยังพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า พรรค ประชาธิปัตย์ รู้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของนายอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์ย่อมรู้อยู่แล้วว่าคนคิดกับ พล.อ.ประยุทธ์อย่างไร เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว รู้ว่าหากหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไปจะไม่เหลือใคร เขาคงคิดจะชนะการเลือกตั้งในสมรภูมิแรกก่อน 

ต่อข้อถามว่าภารกิจทั้ง 3 เวทีใหญ่จะมีพรรคอื่นมาช่วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า การปราศรัยต้องเป็นเรื่องของพรรคเพื่อชาติก่อน แต่หลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ไปแล้ว เขตใดที่ได้ใบแดง ใบส้ม พรรคที่ได้เสียงดีที่สุดก็จะไปแท็กทีมช่วยพรรคที่อยู่ในฟากฝ่ายเดียวกัน แต่ก่อนวันที่ 24 มี.ค. ยังจะคงเป็นเวทีของพรรคใครพรรคมันก่อน.