ผู้สูงวัย12ล้านคนเฮ!ก.แรงงานหนุนป้อนงานโกยเงิน
การเมือง
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวภายหลังเป็นสักขีพยานในการลงนามดังกล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 12 ล้านคน ซึ่งผู้สูงอายุเหล่านี้เป็นพลังส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2559 เห็นชอบมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุ 4 มาตรการหรือโครงการ คือ 1. มาตรการการจ้างงานผู้สูงอายุ 2. โครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ 3. มาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ 4. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ให้มีระบบการออมเพื่อการดำรงชีพยามชราภาพเพียงพอหลังเกษียณ ในส่วนของกระทรวงแรงงานนั้น ได้ขับเคลื่อนส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ โดยคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการประชุมเพื่อพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมสำหรับการจ้างงานผู้สูงอายุ ซึ่งได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว กล่าวคือ ช่วงอายุสำหรับการจ้างแรงงานผู้สูงอายุ ประเภทงาน อัตราค่าจ้างรายชั่วโมง การกำหนดระยะเวลาทำงานที่เหมาะสมสำหรับลูกจ้างผู้สูงอายุ และในปี 2562 มีเป้าหมาย 100,000 คน แบ่งเป็นแรงงานผู้สูงอายุในระบบ จำนวน 20,000 คน และแรงงานผู้สูงอายุนอกระบบ จำนวน 80,000 คน
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า การลงนาม MOU ในวันนี้ เป็นการขับเคลื่อนการส่งเสริมการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ ตามโครงการรวมพลังประชารัฐ ส่งเสริมการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ ซึ่งกรมการจัดหางานได้จัดขึ้น โดยบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม มีสาระสำคัญคือ 1. ทั้งสามฝ่ายร่วมมือขับเคลื่อนมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุด้วยการส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ 2. ภาครัฐให้การประสานงานและสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายการส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ 3. ภาคเอกชนกำหนดนโยบายเรื่องการจ้างงานผู้สูงอายุในสถานประกอบการของตนเอง 4. ภาคประชาสังคมขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ สำหรับช่องทางการรับสมัคร มี 5 ช่องทางคือ 1. ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด 2. สถานประกอบการ 3. เว็บไซต์ www.Smartjob.doe.go.th 4. ตู้งาน (Job Box) 5. สายด่วน 1506 เปิดรับสมัครพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. 2562.