คสรท.จวกบอร์ดค่าจ้างตั้งเพดานปรับแค่10บาทไม่พอยาไส้
การเมือง
นายสมพร กล่าวว่า คสรท. และ สรส. พยายามผลักดันให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ แสดงจุดยืนในการปรับค่าจ้างในรอบหลายปีที่ผ่านมา มีการทำแบบสำรวจสถานการณ์ดำรงชีพ ค่าจ้าง รายได้ หนี้สิน ของคนงานในสังคม ซึ่งมีภาระหนี้สิน คุณภาพชีวิตตกต่ำจากรายได้ไม่พอกิน รัฐบาล จึงต้องเข้าใจความเป็นจริง ต้องฟังเสียงประชาชน โดยเฉพาะแรงงานเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศเกือบ 40 ล้านคน ต้องไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ แต่การประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลาง เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ไม่มีการเคาะอัตราค่าจ้างใหม่ และให้เลื่อนไปพิจารณาในเดือน เม.ย. โดยอ้างว่ามี 46 จังหวัดไม่เสนอตัวเลข จึงให้กลับไปพิจารณาใหม่ ตนมองว่าเป็นการยื้อเพราะฝ่ายนายจ้างยังไม่ยอมให้มีการปรับขึ้น ขณะที่อนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดก็อยู่ในสภาพง่อยเปลี้ย ไม่เสนอตัวเลข จึงควรยกเลิกเพราะมีแล้วไม่เกิดประโยชน์ เสียดายงบประมาณ
"ทุกวันนี้ฝ่ายนายจ้างมีการข่มขู่ลูกจ้างที่ออกมาเรียกร้องขอปรับค่าจ้าง จะเอาหุ่นยนต์มาทำงาน ไม่ต้องมีการจ้างแรงงานอีกต่อไป แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้หุ่นยนต์จะไม่เกิดการซื้อการจับจ่ายเพราะหุ่นไม่กิน ไม่ใช้จ่ายเหมือนคน รายได้ในประเทศจะหายไป แต่การปรับค่าจ้างจะทำให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ มีการใช้จ่ายมากขึ้น มีการผลิต การจ้างงานมากขึ้น รัฐเก็บภาษีได้มากขึ้น จึงควรปรับค่าจ้างให้สมน้ำสมเนื้อกับภาวะเศรษฐกิจ ตัวเลขปรับขึ้นอีก 2-10 บาท มันน้อยเกินไป ทุกวันนี้ค่าจ้างสูงสุด 330 บาท ยังไม่พอใช้เพราะข้าวของแพง จากการศึกษาตัวเลขที่อยู่ได้ต้องเดือนละ 2 หมื่น วันละ 700 บาท แต่หากจะบอกต้องปรับ 700 บาท ก็จะตื่นตกใจ ส่วนจะปรับขึ้นเท่าไหร่ก็ต้องไปพิจารณาให้เหมาสม และไม่ควรยื้อการปรับค่าจ้างให้นานออกไปอีก" นายสมพร กล่าว.