'รักษ์ผืนป่าฯ'หวังปักธงส.ส.เขตชัยภูมิ-มีส.ส.เข้าสภาฯ
การเมือง
โดยนายดำรงค์ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาพบปะประชาชนชาวจ.ชัยภูมิ พบว่ามีประชาชนให้ต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง หลายคนเดินทางมาฟังปราศรัยระยะทางไกลกว่า 100 กม.แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้มีความศรัทธาทั้งในส่วนของพรรครักษ์ผืนป่าฯ และน.ส.ปาริชาติ ซึ่งที่ผ่านมาน.ส.ปาริชาติได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนมาตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมีตัวแทนเครือข่ายป่าชุมชนในจ.ชัยภูมิ มาร่วมด้วย โดยจ.ชัยภูมิมีป่าชุมชุนทั้งหมด 258 ป่า ทราบว่าตนจะมาในวันนี้จึงได้พาตัวแทนมาร่วมรับฟังนโยบายของพรรค เพราะว่าที่ผ่านมาไม่มีพรรคการเมืองใด ให้ความสนใจเรื่องป่าชุมชนในพื้นที่เลย
“ถึงเวลานี้ยอมรับว่ายังไม่รู้ว่าพรรคเราจะไ้รับความไว้วางใจจากประชาชนกี่เสียง เพราะมีพรรคการเมืองให้เลือกมากมาย แต่พรรครักษ์ผืนป่าฯ เป็นพรรคเดียวที่มีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยตรง ซึ่งพรรคใหญ่ๆ ไม่มีใครเขาทำกัน เราอยากเข้ามาลดความเหลื่อมล้ำของอาชีพเกษตรกร ในอนาคตเกษตรกรจะไม่เป็นเบี้ยล่างของกลุ่มทุนต่อไป เพราะสามารถปลูกต้นไม้ตามนโยบายเพิ่มพื้นที่ป่า ปลูกป่าเพื่อสร้างรายได้ แทนการปลูกพืชผลทางการเกษตรแบบชั่งกิโลขายที่มีแต่ขาดทุนซ้ำซาก และยังจะเป็นการลดสารเคมีในแหล่งต้นน้ำลำธารด้วย ประชาชนจะเลือกพรรคที่สร้างประโยชน์ให้กับพวกเขา ซึ่งประโยชน์ที่พรรครักษ์ผืนป่าฯ มีให้เป็นประโยชน์ทั้งระดับประเทศและระดับโลก เพราะเรื่องสิ่งแวดล้อมนั้นผูกพันโยงใยกันไปหมด” นายดำรงค์ กล่าว
ด้าน น.ส. ปาริชาติ กล่าวว่า ตนไม่เคยท้อแท้ทางการเมือง ที่ผ่านมาเคยบอกว่าตราบใดที่ยังไม่ประสบความสำเร็จทางการเมือง ตนจะไม่ยอมแต่งงานเด็ดขาด จนได้เป็น ส.ส.ตนก็ยังไม่แต่งงานเพราะได้แต่งกับประชาชนไปแล้ว มีเลือกตั้งมา 4 ครั้งที่ผ่านมา ตนชนะมาตลอด และหวังว่าในครั้งนี้พี่น้องประชาชนจะส่งตนเข้าสภาเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งตนพร้อมทุกอย่างที่จะเข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ตนรู้ว่ากติการครั้งนี้ยาก มีคนสงสัยว่าทำไมตนย้ายมาอยู่พรรคนี้ ถ้าไม่มาอยู่พรรครักษ์ผืนป่าฯ อาจจะไปไหนไม่สะดวก ระวังตัวลำบาก ตนตัดสินใจถูกต้องแล้วใช่หรือไม่ เพราะเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมาเกิดเหตุยุบพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะวันนี้แยกกันเราอยู่ รวมกันเราตายจากเหตุผลและกติกาใหม่ ถ้าบ้านหลังเก่าไม่มีอุปสรรค ใครจะออกมาตนรำลึกถึงบ้านหลังเก่าตลอดเวลา แต่วันนี้ก็รู้สึกดีใจที่ได้มาสร้างพรรคการเมืองร่วมกับนายดำรงค์ ที่เป็นคนมีความสามารถ ซึ่งจะทำให้บ้านของเรามีป่า มีน้ำ มีกิน มีประชาธิปไตย นอกจากนั้นตนจะผลักดันเรื่องผู้สูงอายุในเรื่องสวัสดิการที่เหมาะสมที่ผู้สูงอายุควรได้รับ ซึ่งวันนี้พรรคเราไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ต่อไปจะเป็นพรรคที่เติบโตต่อไป
ด้านวิชัย พลอยปัทมวิชิต รองประธานเครือข่ายป่าชุมชน จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่มีพรรคการเมืองใหญ่พรรคใด ที่นำเสนอแนวทางการจัดการป่าชุมชน การลดภาวะโลกร้อน การปลูกป่า การใช้คาร์บอนเครดิต เมื่อทราบว่าหัวหน้าพรรครักษผืนป่าฯ จะมาพูดในวันนี้ก็อยากมาให้กำลังใจและสนับสนุนนโยบายและผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการป่าอย่างแท้จริง.