'อุตตม'ฟุ้งปักธงในพื้นที่ประจวบฯได้แน่แม้มีเจ้าของพื้นที่เก่า
การเมือง
Webmaster
2019-03-16 11:38:00
11
Webmaster
2019-03-16 11:38:00
11
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง และนายอุดร ออลสัน ผู้สมัคร ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 (หัวหิน-ปราณบุรี ) ลงพื้นที่ตลาดสดฉัตรชัย เทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อพบปะและแนะนำตัวผู้สมัคร กับพ่อค้าแม่ค้ารวมถึงประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยนายอุตตม ขึ้นรถปราศรัยกับประชาชนว่า ขอโอกาสให้พรรคพลังประชารัฐได้เข้ามารับใช้ชาวหัวหิน เราเป็นพรรคใหม่ แต่ใจเต็มร้อย โดยเฉพาะ นายอุดร ที่ใจเกินร้อย จึงขอให้เขาได้มารับใช้ชาวหัวหิน เพราะหัวหินต้องเปลี่ยนแปลง หัวหินยังมีโอกาสอีกมาก ขณะเดียวกันก็มีปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะน้ำประปา ซึ่งล่าสุดรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อนุมัติงบ 900 ล้านบาท เพื่อสร้างท่อจากเขื่อนเพชรมาที่นี้ รถไฟรางคู่ ซึ่งกำลังดำเนินการ และรถไฟความเร็วสูงกำลังตามมา การท่องเที่ยวก็จะได้อานิสงค์เต็มๆ เพราะพรรคพลังประชารัฐ เราจะพัฒนาพื้นที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว นอกจากนี้ทราบมาว่า คนหัวหิน อยากได้สนามบินอินเตอร์ ระดับนานาชาติ เราจะไปศึกษาเพื่อทำให้เกิดขึ้นจริง
นายอุตตม กล่าวว่า พรรคยังมีนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนทั้งเรื่องสวัสดิการ อย่าง บัตรประชารัฐ ที่ หากมีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ จะเพิ่มบัตรให้คนตกหล่นอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ขยายสิทธิ ไปยังผู้พิการ ผู้สูงอายุ ตามกลุ่ม ยังมีนโยบายมารดาประชารัฐ ที่ดูแลตั้งแต่แม่ตั้งครรภ์เดือนละ 3,000 บาท จำนวน 9 เดือน ค่าคลอด 10,000 บาท และช่วยค่าเลี้ยงดูจนถึง 6 ปี อีกเดือนละ 2,000 บาท ดังนั้นวันนี้เราต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อโอกาสที่เป็นจริง พรรคเราไม่ขัดแย้งกับใคร เราไม่พูดว่าปรองดองเพราะไม่เคยทะเลาะกับใคร เรามาทำงานให้พี่น้อง เรามาเพราะบ้านเมืองต้องการความสงบ ถ้ายังตีกันจะอยู่กันได้อย่างไร พรรคจึงเสนอตัวเข้ามาทำงานรับใช้ ที่สำคัญต้องมีผู้นำที่เหมาะสม นาทีนี้ต้อง "ลุงตู่"เท่านั้น ใครจะพูดไม่เอา"ลุงตู่"แต่เราเอา ใจคนหัวหินอยู่กับ "ลุงตู่"เราไม่มีจุดประสงอื่น ถ้าบ้านเมืองไม่เป็นแบบนี้พรรคพลังประชารัฐคงไม่เกิด วันนี้ประเทศกำลังเปลี่ยนผ่านเราจะไม่เดินไปบนถนนเส้นเดิมที่ขัดแย้ง แต่เราจะก้าาวไปสู่อนาคตที่สดใสร่วมกัน ดังนั้นวันที่ 24 มี.ค.นี้ ขอให้กาพลังประชารัฐเลือก"ลุงตู่"เป็นนายกรัฐมนตรี
นายอุตตม ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า พี่น้องชาวหัวหิน แสดงออกชัดเจน ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ที่จะนำพาประเทศนำพาหัวหินให้ก้าวหน้าไปได้ ก็ต้องเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จึงขอขอบคุณชาวหัวหินทุกคน ที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครของเรา ทั้งนี้ตนมั่นใจว่า พรรคพลังประชารัฐจะสามารถปักธงในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ได้ แม้จะมีเจ้าของพื้นที่เก่าอยู่แล้วก็ตาม เพราะเราทำงานอย่างเข้มข้น เต็มศักยภาพที่เรามีในทุกด้าน นโยบายพรรคตรงโจทย์ แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ และเป็นนโยบายที่จะทำได้จริง ผู้สมัครเราคนรู้จักดี ทำงานในพื้นที่มานาน ทำให้เรามีความมั่นใจว่า จะได้รับความไว้วางใจแน่นอน
เมื่อถามถึง ผลโพลของมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 1 และพรรคพลังประชารัฐจะได้ ที่นั่ง ส.ส.ประมาณ 100 ที่นั่งขึ้นไปนั้น นายอุตตม กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดี เป็นกำลังใจให้พวกเราทุกคน แต่เราฟังโพล เป็นข้อมูลประกอบ สุดท้ายพวกเรายึดมั่ยตัวพวกเราเอง ต้องทำงานเต็มที่ ทำยังไงให้พี่น้องคนไทยให้ความไว้วางใจเรา เพื่อเราจะได้เข้าไปทำงาน และมั่นใจว่า เราจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน
นายอุตตม ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะปรากฎตัวบนเวทีปราศรัยของพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งว่า ให้รอดูเพราะความจริงแล้วด้วยใจของพลเอกประยุทธ์ ท่านอยากมา แต่ก็ต้องดูแลให้รอบคอบรัดกุม เพราะมีแง่มุมทางกฎหมาย ก็ขอให้รอดู ส่วนจะเป็นวันที่ 22 มี.ค.นี้หรือไม่นั้น พรรคพลังประชารัฐทำเต็มที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะเรามีเซอร์ไพรส์ตลอดเวลา
จากนั้นนายอุตตม นายอนุชา พร้อมคณะ เดินทางต่อไปยังสนามบินหัวหิน เพื่อรับทราบข้อมูลประกอบการพิจารณาผลักดัน สนามบินหัวหินให้เป็นสนามบินนานาชาติ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวจากมั่วทุกมุมโลก ได้บินตรงมายังหัวหิน ตามนโยบายของผู้สมัคร ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
ก่อนจะเดินทางมายังศูนย์ประสานงานของพรรค เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจาก ต.ทับใต้ ต.หนองพลับ และพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาการเวนคืนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนกว่า 1,200 ครัวเรือน จึงอยากให้ช่วยเรื่องที่อยู่อาศัยชั่วคราวหรือ ถาวร นอกจากนี้ยังมีราคาสับปะรด ราคาอ้อย ราคายางพารา และปาล์มน้ำมันตกต่ำ ส่วน ประมงท้องถิ่นและประมงพาณิชย์ ต้องการให้ช่วยผ่อนปรนตามกฎหมายประมงของสหภาพยุโรป (IUU) เช่น ข้อบังคับให้แจ้งการเข้าออกของเรือ และหาข้อยุติข้อพิพาทระหว่างเรือชายฝั่งกับเรือพาณิชย์ ระยะไมล์ทะเลในการจับปลาของเรือทั้งสองประเภท.
โดยนายอุตตม ขึ้นรถปราศรัยกับประชาชนว่า ขอโอกาสให้พรรคพลังประชารัฐได้เข้ามารับใช้ชาวหัวหิน เราเป็นพรรคใหม่ แต่ใจเต็มร้อย โดยเฉพาะ นายอุดร ที่ใจเกินร้อย จึงขอให้เขาได้มารับใช้ชาวหัวหิน เพราะหัวหินต้องเปลี่ยนแปลง หัวหินยังมีโอกาสอีกมาก ขณะเดียวกันก็มีปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะน้ำประปา ซึ่งล่าสุดรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อนุมัติงบ 900 ล้านบาท เพื่อสร้างท่อจากเขื่อนเพชรมาที่นี้ รถไฟรางคู่ ซึ่งกำลังดำเนินการ และรถไฟความเร็วสูงกำลังตามมา การท่องเที่ยวก็จะได้อานิสงค์เต็มๆ เพราะพรรคพลังประชารัฐ เราจะพัฒนาพื้นที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว นอกจากนี้ทราบมาว่า คนหัวหิน อยากได้สนามบินอินเตอร์ ระดับนานาชาติ เราจะไปศึกษาเพื่อทำให้เกิดขึ้นจริง
นายอุตตม กล่าวว่า พรรคยังมีนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนทั้งเรื่องสวัสดิการ อย่าง บัตรประชารัฐ ที่ หากมีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ จะเพิ่มบัตรให้คนตกหล่นอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ขยายสิทธิ ไปยังผู้พิการ ผู้สูงอายุ ตามกลุ่ม ยังมีนโยบายมารดาประชารัฐ ที่ดูแลตั้งแต่แม่ตั้งครรภ์เดือนละ 3,000 บาท จำนวน 9 เดือน ค่าคลอด 10,000 บาท และช่วยค่าเลี้ยงดูจนถึง 6 ปี อีกเดือนละ 2,000 บาท ดังนั้นวันนี้เราต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อโอกาสที่เป็นจริง พรรคเราไม่ขัดแย้งกับใคร เราไม่พูดว่าปรองดองเพราะไม่เคยทะเลาะกับใคร เรามาทำงานให้พี่น้อง เรามาเพราะบ้านเมืองต้องการความสงบ ถ้ายังตีกันจะอยู่กันได้อย่างไร พรรคจึงเสนอตัวเข้ามาทำงานรับใช้ ที่สำคัญต้องมีผู้นำที่เหมาะสม นาทีนี้ต้อง "ลุงตู่"เท่านั้น ใครจะพูดไม่เอา"ลุงตู่"แต่เราเอา ใจคนหัวหินอยู่กับ "ลุงตู่"เราไม่มีจุดประสงอื่น ถ้าบ้านเมืองไม่เป็นแบบนี้พรรคพลังประชารัฐคงไม่เกิด วันนี้ประเทศกำลังเปลี่ยนผ่านเราจะไม่เดินไปบนถนนเส้นเดิมที่ขัดแย้ง แต่เราจะก้าาวไปสู่อนาคตที่สดใสร่วมกัน ดังนั้นวันที่ 24 มี.ค.นี้ ขอให้กาพลังประชารัฐเลือก"ลุงตู่"เป็นนายกรัฐมนตรี
นายอุตตม ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า พี่น้องชาวหัวหิน แสดงออกชัดเจน ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ที่จะนำพาประเทศนำพาหัวหินให้ก้าวหน้าไปได้ ก็ต้องเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จึงขอขอบคุณชาวหัวหินทุกคน ที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครของเรา ทั้งนี้ตนมั่นใจว่า พรรคพลังประชารัฐจะสามารถปักธงในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ได้ แม้จะมีเจ้าของพื้นที่เก่าอยู่แล้วก็ตาม เพราะเราทำงานอย่างเข้มข้น เต็มศักยภาพที่เรามีในทุกด้าน นโยบายพรรคตรงโจทย์ แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ และเป็นนโยบายที่จะทำได้จริง ผู้สมัครเราคนรู้จักดี ทำงานในพื้นที่มานาน ทำให้เรามีความมั่นใจว่า จะได้รับความไว้วางใจแน่นอน
เมื่อถามถึง ผลโพลของมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 1 และพรรคพลังประชารัฐจะได้ ที่นั่ง ส.ส.ประมาณ 100 ที่นั่งขึ้นไปนั้น นายอุตตม กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดี เป็นกำลังใจให้พวกเราทุกคน แต่เราฟังโพล เป็นข้อมูลประกอบ สุดท้ายพวกเรายึดมั่ยตัวพวกเราเอง ต้องทำงานเต็มที่ ทำยังไงให้พี่น้องคนไทยให้ความไว้วางใจเรา เพื่อเราจะได้เข้าไปทำงาน และมั่นใจว่า เราจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน
นายอุตตม ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะปรากฎตัวบนเวทีปราศรัยของพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งว่า ให้รอดูเพราะความจริงแล้วด้วยใจของพลเอกประยุทธ์ ท่านอยากมา แต่ก็ต้องดูแลให้รอบคอบรัดกุม เพราะมีแง่มุมทางกฎหมาย ก็ขอให้รอดู ส่วนจะเป็นวันที่ 22 มี.ค.นี้หรือไม่นั้น พรรคพลังประชารัฐทำเต็มที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะเรามีเซอร์ไพรส์ตลอดเวลา
จากนั้นนายอุตตม นายอนุชา พร้อมคณะ เดินทางต่อไปยังสนามบินหัวหิน เพื่อรับทราบข้อมูลประกอบการพิจารณาผลักดัน สนามบินหัวหินให้เป็นสนามบินนานาชาติ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวจากมั่วทุกมุมโลก ได้บินตรงมายังหัวหิน ตามนโยบายของผู้สมัคร ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
ก่อนจะเดินทางมายังศูนย์ประสานงานของพรรค เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจาก ต.ทับใต้ ต.หนองพลับ และพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาการเวนคืนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนกว่า 1,200 ครัวเรือน จึงอยากให้ช่วยเรื่องที่อยู่อาศัยชั่วคราวหรือ ถาวร นอกจากนี้ยังมีราคาสับปะรด ราคาอ้อย ราคายางพารา และปาล์มน้ำมันตกต่ำ ส่วน ประมงท้องถิ่นและประมงพาณิชย์ ต้องการให้ช่วยผ่อนปรนตามกฎหมายประมงของสหภาพยุโรป (IUU) เช่น ข้อบังคับให้แจ้งการเข้าออกของเรือ และหาข้อยุติข้อพิพาทระหว่างเรือชายฝั่งกับเรือพาณิชย์ ระยะไมล์ทะเลในการจับปลาของเรือทั้งสองประเภท.
