กุล่มกล่าวต่อไปฯจัดเวทีปราศรัยหลังปิดหีบลต.ล่วงหน้าที่นครฯ
การเมือง
ส่วนกรณีที่รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาบอกว่าตนอย่าไปพูดท้าทาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ให้ตั้งเวทีปราศรัยประกบกันเพราะจะทำให้เกิดความแตกแยกนั้น ตนไม่ได้ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า เพียงแต่อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความสง่าผ่าเผยตรงไปตรงมาแก่สายตาประชาชนบ้าง ไม่ใช่จ้องจะเอาเปรียบใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์เป็นคะแนนเสียงให้พรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเปิดคลิปกี่คลิปไม่สำคัญเท่ากับเปิดใจให้คนดูว่ามีสำนึกของคนที่เสนอตัวให้ประชาชนไปลงคะแนนเลือกเป็นนายกฯ ไม่ใช่ลงสนามเลือกตั้งทั้งที่มีสำนึกแต่การเอาแต่ได้ สำนึกของผู้ถืออำนาจเผด็จการและใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบทุกกรณี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อน ทั้งนี้ยืนยันว่าที่พวกตนดำเนินการอยู่นั้นเป็นไปตามสิทธิ เและเสรีภาพที่สามารถทำได้ตามกรอบของกฎหมาย เพราะเบขากกต.ก็เคยระบุว่าทำได้
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบประชาชนเน้นเสนอประเด็นความจำเป็นต้องหยุดการสืบทอดอำนาจคสช. และส่งเสริมให้มีพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และเนื่องจากเราไม่ได้เป็นพรรคการเมืองแล้วจึงมีเวลาติดตามนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ทำให้เห็นสิ่งน่าเป็นห่วงที่กำลังจะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจ ระบบรัฐสภาและระบบการเมือง คือการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมพูดความจริงเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ ยังคงยืนยันบนเวทีพรรคพลังประชารัฐว่าเศรษฐกิจดีทั้งเรื่องการลงทุน ส่งออก และท่องเที่ยว ซึ่งไม่มีความเป็นจริง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่ออกมายืนยันเศรษฐกิจทุกอย่างดี และแสดงความห่วงใยพรรคการเมืองเสนอนโยบายประชายม ทั้งที่พรรคพลังประชารัฐเองต่างหากที่เสนอนโยบายส่งผลเสียกับเศรษฐกิจ หากทำตามนั้นจะเกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวงยิ่งกว่าที่เกิดมา 5 ปี เช่นราคาพืชผลซึ่งเกินกว่าที่มันจะเป็นไปมาก ถ้าจะทำตามนั้นต้องใช้เงินหลายแสนล้านซึ่งไม่มีทางหาเงินงบประมาณมาใช้ได้ อีกทั้งยังมีการเสนอลดภาษีต่างๆยิ่งจะทำให้รายได้ของรัฐน้อยลงไปอีก และนโยบายที่ออกมายังจะส่งผลกระทบกับภาคเอกชนทั้งการเพิ่มเงินเดือนและค่าแรงสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเอกชนอาจรับไม่ได้
ถ้าเป็นเรื่องที่พูดแล้วไม่ต้องทำคนอาจสะบายใจว่าไม่ทำก็ไม่เสียหายแต่พรรคพลังประชารัฐโยงเข้ากับรัฐบาลปัจจุบันและหัวหน้าคสช.ที่มี ส.ว.อยู่ในมือ ถ้าได้มาเป็นรัฐบาลและทำตามนโยบายเหล่านี้จะสร้างความเสียหายอย่างมาก สิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนชั้นกลางและภาคเอกชนให้รู้สึกว่าระบบพรรคการเมืองกำลังจะทำให้ประเทศเสียหาย ทั้งๆที่เกิดจากการแทรกแซงครอบงำจากผู้ทำรัฐประหาร ดังนั้นโค้งสุดท้ายถ้าไม่ทำความเข้าใจจะเกิดผลเสียกับประเทศ ส่วนตัวคิดว่าหากไปเรียกร้องให้ พรรคพลังประชารัฐทบทวนนโยบายคงเป็นเรื่องยาก จึงขอให้ประชาชนร่วมกันพิจารณาในการเลือกตั้งครั้งนี้ และที่เราต้องนำเสนอก็หวังว่าให้ประเทศพ้นปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ต้องการใส่ร้ายป้ายสีใครหากเราไม่ช่วยทำความเข้าใจให้ดีหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ประเทศอาจเสียหายกว่าเดิม.