ข่าว5ปีไม่นาน!'บิ๊กตู่'ลั่นอย่าเอาเพลงแรกที่แต่งมาทวงสัญญา - kachon.com

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เดินทางด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 7กฬ 1333 มายังโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา เพื่อตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และพบนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  ทั้งนี้ได้มีนายสายัณห์ ยุติธรรม ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.นครศรีธรรมราช เขต 7 นำมวลชนให้การต้อนด้วย โดยทันทีที่นายกฯ มาถึง นายสายัณห์ได้เข้าไปทักทายแนะนำตัวด้วย

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนกำลังร่วมมือเดินหน้าประเทศไทยไปด้วยกัน เราลำบากกันมานานแล้ว ซึ่งผมคิดว่า ทุกคนกำลังนำทุกคนไปสู่วันข้างหน้า ชีวิตที่ดีกว่า มีหลักประกัน มั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ภาคใต้มีศักยภาพมากโดยเฉพาะด้านการเกษตรทั้งปาล์มยางพาราที่ขณะนี้ราคาค่อนข้างแย่ แต่มันเกิดขึ้นทั้งโลก ซึ่งรัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหาทุกอย่าง ทำให้วันนี้ราคายางเริ่มปรับขึ้น เป็นแต่ราคา 50  ปลายๆ ต่อกิโลกรัม รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ ราคาจะปรับดีขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของยางหลายประเภทสนใจที่จะซื้อเพื่อนำไปก่อสร้างถนน หากใช้แล้วมีความทนทานใช้งานดีเชื่อว่าจะมีการสั่งเพิ่มเข้ามาจะส่งผลต่อราคาที่ดีขึ้น ขณะที่ตามจะมีการผลักดันนำไปใช้เป็นน้ำมัน บี 20 อย่างไรก็ตามวันนี้อยู่กันแบบสังคมพหุพาคี รวมกันหลายศาสนา อยู่กันด้วยความปรองดอง สมานฉันท์แบ่งแยกไม่ได้ ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยเป็นประชารัฐ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การพัฒนาเรื่องใดๆก็ตามจะต้องไม่ทำลายอัตลักษณ์เดิมของประเทศซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งให้มีการสืบสานรักษาต่อยอด เพราะทุกอย่างไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงในคราวเดียวได้ ซึ่งเป็นการบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้จากการที่ตนเป็นนายกฯ บริหารราชการมาทำให้รู้ว่าทุกอย่างไม่ง่าย ขณะที่การปฏิรูปประเทศไม่ใช่การสั่งปากเปล่าที่จะสั่งวันนี้และพรุ่งนี้ทำได้ เพราะจะทำสำเร็จทุกอย่างต้องมีหลักการ เรื่องเหล่านี้เชื่อว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าใจอย่างดี เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทผู้เรียนมีความสำคัญและจะยึดเพียงความต้องการอย่างเดียวไม่ได้ หรือแม้แต่ความชอบความรู้สึกอย่างเดียวก็ไม่ได้ แม้แต่การเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการกระจายอำนาจก็จริง แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องนำภาษีส่วนหนึ่งของคนทั้งประเทศมาเพิ่มเติมให้ ในภาพรวมกว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าไม่มีใครจะทำงานตัวคนเดียวได้ตนเองก็เช่นกัน

นายกฯ กล่าวอีกว่า การที่เราจะเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยในระยะเวลาอันใกล้ ยืนยันว่าตนไม่เคยขัดข้อง เคยระบุไว้แล้วว่าพร้อมเมื่อไหร่ก็ต้องมีการเลือกตั้ง จึงขอให้ดำเนินการไป แต่สิ่งที่กังวลคือจะเดินหน้าไปอย่างไร หลังการเลือกตั้งแล้ว สิ่งที่อยากจะขอจากประชาชนคือความสงบเรียบร้อยการอยู่อย่างปรองดองสมานฉันท์ และพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เพราะไม่มีใครจะอยู่คนเดียวได้ ทั้งนี้หากใครมาบอกว่าจะให้ประชาชนรวยขึ้นด้วยการที่รัฐให้เพียงอย่างเดียว ไม่มีทางเป็นไปได้ มีแต่จะจนและทำให้ประเทศจนตามไปด้วย ขณะเดียวกันปัญหาในประเทศหลายๆอย่างเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ต้องโทษใคร วันนี้ต้องรวมพลังกันเดินหน้าประเทศ ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีจะเป็นกลไกกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศ เส้นทางการส่งต่อพัฒนา หากจะให้เริ่มใหม่ทั้งหมด ต้องล้มล้างใหม่หรือไม่ 800 ปีประเทศไทยเจริญขึ้นมา จากพระมหากษัตริย์เป็นผู้นำการต่อสู้รักษาแผ่นดิน ให้กับบรรพบุรุษของเราเราจะรู้หมดเลย ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหารทุ่มเทเสียสละ ตายเจ็บมาเท่าไหร่ ครอบครัวต้องเสียใจเท่าไหร่ จึงขออย่ามองเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการเมืองยืนยันว่าไม่ได้อะไรมากนักกับตรงนั้น เป็นเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องของนโยบาย ถ้าสมมุติว่าตนได้ทำงานต่อ ก็จะทำในสิ่งที่ได้พูดมา ทำให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง แล้วทุกอย่างจะเป็นห่วงโซ่สร้างความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน ความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน สำคัญที่สุดเพราะหากทุกอย่างเป็นอย่างเดิม ก่อนที่ตนเองจะเข้ามา ถือว่าจบทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้มีการใช้งบอย่างฟุ่มเฟือยทุกอย่างไรมีค่า เพื่อความพอใจ จะเป็นแบบนั้นอีกไม่ได้แล้วทุกคนต้องพอใจอย่างพอเพียง มีเหตุผลมีความพอประมาณมีภูมิคุ้มกันที่ดี และจะสอนให้ทุกคนรวยกันทั้งหมดไม่ได้แต่ต้องสอนให้ทุกคนมีความเผื่อแพร่

"วันหน้าถ้าผมมีโอกาสผมจะทำให้ ถ้าไม่มีโอกาสผมก็มีความสุขโดยการพักผ่อน ไม่ต้องเครียดและเสียงดังหรือต้องปวดหัวแบบนี้ ผมไม่ได้ทวงบุญคุณใครเพราะผมทำให้ประเทศของผม เพราะแผ่นดินนี้ก็ทวงบุญคุณผม ที่ได้เหยียบแผ่นดินนี้มา 65 ปี ผมทำให้แผ่นดินของผม แล้วเป็นแผ่นดินของท่านซึ่งก็ต้องทำของท่านเอง แต่ในฐานะรัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องทำให้ประชาชนด้วย ทั้งนี้รัฐบาลไม่ใช่เป็นผู้ให้ หรือจะให้เป็นเงินเพียงอย่างเดียวแต่ต้องให้ความรู้ควบคู่ไปด้วย รวมถึงการให้ปัจจัยพื้นฐานโครงสร้างที่จำเป็น"นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนพูดหลายคนเอาตนไปอยู่ในความขัดแย้ง ตนไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และก่อนหน้านี้ไม่ได้ขัดแย้งกับใครเลยอยู่ของตนเฉยๆ เมื่อมีความขัดแย้ง ตนก็เข้ามาแก้ปัญหา เพราะไม่มีวิธีการอื่นแก้ปัญหานี้ ซึ่งในวันนั้นก่อนที่จะเข้ามางบประมาณใช้ไม่ได้รัฐบาลไม่มีอำนาจเต็ม และในวันนั้นถือว่าเป็นคนละอย่างกับวันนี้ วันนี้ตนเองมีอำนาจเต็ม จึงขอให้ทุกคนสนใจความแตกต่าง และอย่าลืมอดีต เพื่อนำมาขับเคลื่อนอนาคตประวัติศาสตร์นั่นคือบทเรียน ขณะเดียวกันรัฐบาลทำงานต้องใช้มติคณะรัฐมนตรี ขณะที่รัฐสภาประกอบด้วย 2 สภา ซึ่งจะเลือกจะตั้งทุกคนก็เป็นมนุษย์ และคิดว่าทุกคนก็เคยทำงานมาทั้งหมด อาจจะมีทั้งดีและไม่ดีแต่ก็ต้องให้โอกาสเขาทำงาน

"วันนี้ผมให้ใจอยู่ตลอด ผมให้ใจไปจนจะหมดอยู่แล้ว และหัวใจของผมมีพ่อกับทุกคน แค่เท่ากำปั้น แต่มันต้องยิ่งใหญ่ ทุกคนมีหัวใจ 2 ห้อง แต่สำหรับผมหัวใจวันนี้ 68 ล้านห้อง ทุกคนจะเดินไปพร้อมกับผมหรือไม่ แม้จะเดินบ้างวิ่งบ้างหรือคลานบ้าง แต่ประเทศต้องเดินหน้าไป สิ่งสำคัญคือขึ้นอยู่กับทุกคน ซึ่งวันนี้ถูกจับตามองในหลายอย่าง ผมก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกันแต่ก็ต้องทำงานต่อจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ อย่าเพิ่งเกลียดชังฉันนักเลย ผมแต่งเพลงมาทั้งหมด 8 เพลง อย่าเอาเพลงแรกมาทวงสัญญามา บอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน การทำงานให้ประเทศ 5 ปีถือว่าไม่นาน  ประเทศไทยทำงานไม่มีนานหรอก แต่ละ 5 ปี จะใครก็แล้วแต่ท่านเลือกกันเอาเอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนาทั้งหทดทุกคนทุกช่วงวัย นี่คือประเทศไทย เราต้องเข้มแข็งไปด้วยกันใช่หรือไม่ต้องรักสามัคคีใช่หรือไม่ต้องพัฒนาตัวเองใช่หรือไม่ ผมทุ่มเทเหนื่อยก็ไม่ท้อและผมก็สู้ ซึ่งทุกคนต้องสู้ไปกับผมอย่าปล่อยคนเดียว ผมเป็นคนใจดีอารมณ์ดีและเป็นคนตลก บางครั้งก็แกล้งดุ แกล้งโมโหแค่นั้นเอง เหมือนกับการมีลูกหลายคน เมื่อลูกเกเรผมก็ต้องดุบ้าง เพราะทั้งหมดคือเป็นภัยทั้งสิ้น วันนี้มีภารกิจหลายที่ ช่วงนี้เป็นแบบนี้ทุกวันยืนยันไม่ได้หาเสียงอะไรทั้งสิ้น"นายกฯ กล่าว.