ปชป.ปราศรัยใหญ่-ปล่อยขบวนรถ30เขตกทม.ศุกร์นี้
การเมือง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พรรคได้รับการร้องเรียนจากผู้สมัครส.ส.ของพรรคแทบจะทุกเขตเลือกตั้งว่ามีการซื้อเสียงกันอย่างโจ่งครึ่มและรุนแรงด้วยเงินจำนวนสูงที่สุด ถึงหัวละ 1,000 บาท โดยไม่ได้เกรงกลัวว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจะจับกุม ขณะเดียวกัน จากการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งมา 40 กว่าวัน ยังไม่ปรากฏว่ากกต.ได้ดำเนินการอะไรกับผู้ที่ซื้อเสียง ดังนั้นการเลือกตั้งจะไม่สามารถบริสุทธิ์และยุติธรรมได้ หากยังมีการซื้อเสียง ตนจึงขอเรียกร้องให้กกต.เร่งส่งหน่วยสืบสวนสอบสวนพร้อมกับเข้าระงับการซื้อเสียง เพราะเป็นช่วงสุดท้ายของการหาเสียง ซึ่งกำลังระดมเงินจำนวนมากเพื่อจะซื้อเสียงก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้
เมื่อถามว่า จะมีการรวบรวมหลักฐานการซื้อเสียงยื่นต่อ กกต.หรือไม่ นายธนา กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายเขตที่รวบรวมข้อเท็จจริง แต่เนื่องจากเอกสารหรือวัตถุวัตถุพยานที่เราจะต้องใช้อยู่ในครอบครองของบุคคลอื่น ดังนั้นต้องใช้เวลา แต่ในหลายพื้นที่ก็มีหลักฐานแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่ามีหลักฐานแน่นหนาพอที่จะดำเนินการกับผู้กระทำผิดหรือไม่ อย่างไรก็ตามทีมสืบสวนของพรรคได้รวบรวมข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดในสถานที่บริเวณดังกล่าว เพื่อที่จะนำไปให้กกต.พิสูจน์ว่ามีการดำเนินการอย่างนั้นจริงหรือไม่ ตอนนี้ได้รับรายงานว่ามีการซื้อกันอย่างชัดเจนประเภทเดินซื้อขอเลขบัตรประชาชน และจ่ายเงินกันแล้ว ซึ่งเมื่อสักครู่ ตนได้พูดคุยกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยืนยันว่าได้มีการไปพูดคุยกับคนที่ไปรับหน้าที่ในการหาคนมาแล้ว และมีการจ่ายเงินให้กับประชาชนไปแล้ว
ต่อข้อถามถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) กล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์หลายครั้งในช่วงนี้ และปรามาสว่าจะได้ส.ส.ไม่ถึง 100 คน นายธนา กล่าวว่า ทุกพรรคคงจะมีแนวทางหาเสียงเพื่อให้ได้คะแนนสูงสุด ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าเราได้ทำงานการเมืองมาตลอดระยะเวลา 72 ปี และเชื่อมั่นว่าเวลาที่ประชาชนไปคูหาเลือกตั้ง จะนึกถึงพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคที่ออกนโยบายต่าง ๆโดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นพรรคการเมืองที่ไม่เคยทำร้ายประเทศและประชาชน ตนเชื่อว่าท้ายที่สุด เมื่อบรรยากาศการเลือกตั้งที่คุกรุ่นอยู่ในขณะนี้มีการกล่าวโจมตีให้ร้ายกันมากมายจะสงบลงในที่ 23 มี.ค.นี้ ประชาชนก็จะได้มีความคิด และนึกย้อนไปว่าสมควรจะมอบความไว้วางใจให้กับพรรคใดมาบริหารประเทศ ซึ่งตนเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นคำตอบที่ประชาชนเข้าใจและลงคะแนนให้.