'หมอนวด'งง'สมาคมฯ'อยู่ที่'สธ.' แต่กลับขึ้นทะเบียนไม่ได้
การเมือง
ด้าน นายกรด โรจนเสถียร นายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า จากการหารือเบื้องต้นกับกรมสบส. ทางสมาคมทสปาไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนของโรงเรียนสอนนวดที่ได้ขึ้นทะเบียนถูกต้องแล้วนั้น ยินดีเข้ามาให้การช่วยเหลือ ช่วยสอนหมอนวดที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ฟรี โดยทำให้ลักษณะจิตอาสา ไม่ได้คิดค่าใช้จ่าย หากหมอนวดเหล่านั้นสามารถผ่านการสอบและฝึกอบรมเกิน 70 เปอร์เซ็น ทางโรงเรียนจะออกใบรับรองการเรียนนวดให้เพื่อที่จะได้นำเอกสารดังกล่าวไปขึ้นทะเบียนหมอนวดได้ อย่างไรก็ตาม คนที่มีปัญหาอาจจะไม่สามารถถือเอกสารแล้วเดินเข้ามาหาเราได้เลย เพราะเราไม่สามารถตรวจสอบได้เอง ดังนั้งคงต้องให้สบส.เป็นผู้รวบรวมรายชื่อส่งมาให้ และกระจายไปยังโรงเรียนต่างๆ แทน อย่างไรก็ตามในรายละเอียดหลักสูตร วิธีการประเมินตรงนี้จะมีการหารือกับสบส.อย่างเป็นทางการอีกครังในสัปดาห์นี้
ด้าน นางเอ นามสมมติ ผู้นวดที่เข้ารับการฝึกอบรมครูนวดแผนไทยจากสมาคมแห่งหนึ่ง ซึ่งกรม สบส.มีคำสั่งระงับการชึ้นทะเบียนผู้นวดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสมาคมดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเป็นหมอนวดที่ผ่านการเรียนทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และการเก็บเคสนวด รวมถึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหมอนวดอยู่แล้ว ต่อมาก็พบว่ามีสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งหนึ่งย่านกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี มีการประกาศรับอบรมวิทยากรครูนวด โดยมีการบอกว่าเมื่อจบแล้วสามารถไปสอนนวดได้ ตนมองว่าตัวเองก็ทำงานมาระยะหนึ่ง ช่วยให้คนที่ปวดเมื่อร่างกายรู้สึกดีขึ้น จึงมั่นใจในตัวเองว่าน่าจะสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นได้ พอเห็นสมาคมดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่กระทรวงสาธารณทำให้คิดว่าเป็นหน่วยงานของกระทรวงจริง จึงไปสมัครอบรมเป็นวิทยากร ซึ่งคนอื่นๆ ที่เข้าไปอบรมก็เข้าใจแบบเดียวกัน มั่นใจว่าเมื่อจบจากที่นี่แล้วนะสามารถพูดได้ว่าผ่านการฝึกอบรมวิทยากรของสมาคมดังกล่าว และพ่วงท้ายด้วยคำว่ากระทรวงสาธารณสุข โดยมีการจ่ายค่าอบรม 6,200 บาท
“มีคนมาเรียนวิทยากรเยอะ ทั่วประเทศ ทำให้มีผู้เสียหายเยอะ บางครั้งพอมาสอนก็ไม่สอนจริง มีการขายใบประกาศ เช่น แค่มาสมัครกับวิทยากรคนหนึ่ง จ่าย 2,500 บาท พร้อมรูปถ่าย แล้วเอารูปถ่าย เอกสารส่งไปให้ทางสมาคมฯ พร้อมเงิน 600 บาทก็จะได้ใบประกาศ สรุปวิทยากรได้ 1,900 บาท สมาคมฯ ได้ 600 บาท ได้ใบประกาศทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ผลเสียคือหมอนวดไปนวดโดยไม่มีความรู้จริง เสี่ยงนวดคนตาย พิการ” นางเอ กล่าว
นางสาวบี นามสมมติ ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรครูวิทยากรที่ และเคยเปิดศูนย์สาขาสมาคมแพทย์แผนไทยดังกล่าว ในแถบภาคกลาง กล่าวว่า ตนไปอบรมวิทยากร ประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา จากนั้น 3-4 เดือน เข้าร่วมเป็นศูนย์สาขาของสมาคมฯ โดยต้องจ่ายค่าป้าย “ศูนย์สาขา...” ประมาณ 1 แสนบาท เหมือนการซื้อเฟรนไชน์ เพื่อให้ลูกศิษย์เรามีสิทธิได้รับใบรับรองจากสมาคมฯ
“เรายังไม่ได้คืนทุนจากการเปิดศูนย์สาขาที่ต้องจ่ายค่าป้ายไปเป็นแสน เพราะเราคิดค่าสอนไม่แพง แต่ที่ทำอยากให้หมอนวดที่อยากมีอาชีพ เลยไม่ได้ทำกำไร แต่พอทำแล้วลูกศิษย์เราขึ้นทะเบียนไม่ได้ก็เลยหยุด ไม่อยากทำร้าย ซึ่งเขาเองก็เป็นคนที่มีรายได้ไม่มากอยู่แล้ว เราถอย และยกเลิกการเป็นศูนย์สาขาฯ แล้วไปขึ้นทะเบียนเป็นศูนย์ทดสอบฝีมือของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงานแทน ตรงนี้ไม่ได้มีการสอนนวดแล้ว แต่ทำการทดสอบฝีมือเพียงเท่านั้น” นางสาวบี กล่าว.