'เสี่ยแฮงค์'ยันนโยบายข้าว พปชร.เจ๋งกว่าพรรคอื่น
การเมือง
นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับนโยบายเรื่องข้าวของพรรคพลังประชารัฐว่า นโยบายการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวนาของพรรคเราถือว่าตอบโจทย์การป้องกันการทุจริต ที่มีตัวอย่างให้เห็นจากรัฐบาลก่อนๆ นโยบายของเราทำได้จริงและทำได้ทันที การช่วยเหลือค่าปลูกข้าวและค่าปรับปรุงดินไร่ละ 1,500 บาทและค่าเกี่ยวข้าวไร่ละ 2,000 บาทครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ ตกแล้วชาวนาจะได้ค่าช่วยเหลือไร่ละ 3,500 บาท รวมแล้วจะได้ครอบครัวละ 70,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้จะถึงมือพี่น้องชาวนาโดยตรง ลบข้อครหาการทุจริต ไม่เหมือนกับนโยบายของบางพรรคที่ให้เป็นตันหรือเป็นเกวียน หากบางครอบครัวมีผลผลิตน้อยไม่ถึงตามโควต้า อาจเกิดการทุจริตนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ ตรงนี้ถือว่าเป็นช่องโหว่ที่นโยบายของพรรคพลังประชารัฐปิดช่องตรงนี้ได้หมด
“การช่วยเกษตรกรเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ หากเกษตรกรมีรายได้ดี ก็สามารถจับจ่ายใช้สอยได้ ขณะนี้ตลาดของไทยยังต้องพึ่งพาเม็ดเงินจากภาคการเกษตรมากกว่าอุตสาหกรรม หากเกษตรกรอยู่ดีกินดี มีชีวิตที่ดีขึ้นและไม่เป็นหนี้ พวกเขามีเงินออกมาจับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจของประเทศไทยจะมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ช่วยให้การขับเคลื่อนของเศรษฐกิจดีขึ้น” นายอนุชา กล่าว
เมื่อถามว่านโยบายข้าว เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้กระแสของพรรคพลังประชารัฐดีขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เราทำนโยบายนี้โดยไม่ได้คิดถึงคะแนนนิยมเป็นหลัก แต่เราทำเพื่อพัฒนาเกษตรกรไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถ้าเราทำนโยบายได้ตอบโจทย์ ถูกใจพี่น้องเกษตรกร ทำให้พวกเขาอยู่ดีกินดีและเป็นโยบายที่ทำได้จริง ตรงนี้จะเป็นผลพลอยได้ที่ทำให้คะแนนของพรรคสูงขึ้น
นายอนุชา กล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคอีสานในช่วงนี้ว่า จากการลงพื้นที่อย่างหนักในช่วงโค้งสุดท้ายพบว่า กระแสของพรรคพลังประชารัฐในภาคอีสานดีขึ้นเรื่อยๆ หากวัดกับพรรคใหญ่เจ้าของพื้นที่เดิม เราอาจจะมีดีพอที่จะเบียดพวกเขาตกขอบไปได้เลย การเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะมีการพลิกล็อกถล่มทลายที่พรรคพลังประชารัฐจะได้ส.ส.อีสานในหลายพื้นที่สูงมากๆ จากการผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้ง ครั้งนี้รู้สึกได้ว่าภาคอีสานให้การตอบรับพรรคเราดีมาก ซึ่งชาวอีสานชื่นชอบในนโยบายของพรรคที่ทำได้จริงและทำได้เลย เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นโยบายด้านการเกษตร การพักหนี้กองทุนหมู่บ้านและโครงการมารดาประชารัฐ ถือว่าพรรคเราทำนโยบายได้เข้าเป้าและโดนใจประชาชนมากๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ช่วงเย็นของวันนี้ ทางพรรคพลังประชารัฐ ได้ยกทัพปราศรัยใหญ่ โค้งสุดท้ายที่ ทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี โดยได้ชวนประชาชนร่วมตัดสินอนาคตประเทศ 24 มีนาคม เลือกพลังประชารัฐ ได้ ลุ่งตู่ เป็นนายกฯ พ่วงนโยบายที่ทำได้จริง และทำได้ทันที