ข่าว'หนูนา'นั่งซาเล้งสีชมพูหาเสียง ลั่นกวาด30เก้าอี้ในสภาฯ - kachon.com

'หนูนา'นั่งซาเล้งสีชมพูหาเสียง ลั่นกวาด30เก้าอี้ในสภาฯ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ จ.เพชรบุรี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมด้วย แกนนำพรรค ลงพื้นที่จ.เพชรบุรี ช่วยผู้สมัครของพรรคทั้ง 3 เขตหาเสียง ได้แก่ นายยุทธพล อังกินันทน์  ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1  นายสุขเขตร  สุขโข ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 และ น.ส.อมรรัตน์ สุขเจริญ  ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 โดยถือฤกษ์ในเวลา 09.09 น. เข้ากราบสักการะ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.เพชรบุรี สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พร้อมทั้งสักการะศาลต้นโพธิ์ประตูเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล และเอาฤกษ์เอาชัยใน การเลือกตั้งครั้งนี้  จากนั้น  น.ส.กัญจนา พร้อมด้วยผู้สมัคร ได้นั่งขบวนรถซาเล้งสีชมพูแห่หาเสียงรอบเมืองเพชรบุรี ก่อนจะเดินพบปะประชาชนในตลาดเมืองเพชร เพื่อขอคะแนนเสียงในวันเลือกตั้ง 24 มี.ค.ที่จะมาถึง



โดย น.ส.กัญจนา กล่าวว่า หาเสียงครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากพี่น้องชาวเมืองเพชรบุรี ทำให้มั่นใจว่า นายยุทธพล จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวเพชรบุรีเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าสภาอย่างแน่นอน สำหรับนโยบายที่พรรค ชทพ. นำเสนอให้แก่ชาวเพชรบุรีคือเน้นช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยการเพิ่มราคาขายให้กับผลผลิต นอกจากนี้ยัง จะสนับสนุนให้แก้ไขปัญหาเรื่องประมง ที่มีกฎระเบียบบังคับมากเกินไป อย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายที่พรรคชาติไทยพัฒนาคาดหวังไว้ว่าจะนำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าสภาให้ได้ประมาณ 25 - 30 คน



ด้านนายยุทธพล  กล่าวว่า ตนอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีการทุจริตการเลือกตั้ง และ การแข่งขันในพื้นที่เลือกตั้งในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง วันที่ 24 มี.ค.นี้  เนื่องจากในพื้นที่เพชรบุรี ตนได้รับแจ้งจากประชาชนในหลายพื้นที่ ว่าพบมีหัวคะแนนของบางพรรคการเมืองเข้าไปจดชื่อพร้อมแจกเงินให้กับประชาชน และบางพื้นที่พบการปราศรัย รวมถึงหาเสียงโดยมีเจตนาใส่ร้ายผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองอื่น

"ผมเคยแจ้งไปยัง กกต.ประจำจังหวัดให้ตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าให้นำหลักฐานและพยานแจ้งเรื่อง ซึ่งไม่มีประชาชนคนใดจะกล้าเป็นพยานเพื่อให้กกต. ได้ตรวจสอบ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าพื้นที่ จ.เพชรบุรี มีการแข่งขันจากหลายพรรคการเมืองอย่างเข้มข้น และบางพรรคใช้กลยุทธ์หาเสียงแบบใส่ร้ายผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเป็นคู่แข่งในพื้นที่ ทั้งกรณีให้หัวคะแนนของพรรคใหญ่แจกเงินและอ้างว่ามาจากพรรคการเมืองขนาดกลางในพื้นที่ เป็นต้น" นายยุทธพล กล่าว.