นักการเมืองรุ่นใหม่ประสานเสียงต้านรัฐประหาร-ทุจริต
การเมือง
นายพริษฐ์ กล่าวถึง พรรคของคุณมีนโยบายอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดการปฎิวัติ ว่า เราควรมองกลับไปอะไรที่ทำให้เกิดรัฐประหารขึ้น เพราะ 2 ชุดความคิด คือ ประชาชนไม่เป็นใหญ่ และการมองประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งก็พอ จึงสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหารและเราก็ไม่สามารถรักษาอธิปไตยที่ผ่านมาได้ ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ ต้องการสร้างการส้รางประชาธิปไตยสุจริต ไม่ใช่การสร้างประชาธิปไตยที่ทุจริต ไม่ใช่ประชาธิปไตยวิปริต นำอำนาจ ส.ว. 250 ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เข้ามาจัดตั้งรัฐบาล และรัฐแทรกแซงองค์กรอิสระ และเข้ามาก่อการทุจริตทุกรูป ทั้งนี้หากเข้าใจจุดขายของประชาธิปไตยจะไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก
น.ส.เยาวภา กล่าวว่า พรรคเรามีจุดยืนคือไม่ขัดแย้ง ไม่มีปัญหา ไม่สร้างปัญหาเงื่อนไข วันนี้พรรคเราอาสาเข้ามาทำงานเพราะมองว่าประชาชนทุกคนเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ การซื้อสิทธิขายเสียงในพื้นที่เพื่อได้ตำแหน่ง เข้ามากอบโกย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาที่ไม่รู้จบ และเกิดการรัฐประหารตามมา ทั้งนี้การเมืองทุกเรื่องควรจบในสภา นอกจากนี้ควรรู้กติก่รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย การไม่ยอมรับผลก็จะทำให้เกิดปัญหา อย่างไรก็ตามพรรคเรามีจุดยืนชัดเจน เราไม่มีอคติกับฝ่ายใด เราสามารถร่วมทำงานร่วมกันได้ แต่วันนี้เราเองต้องปรับตัวรู้อภัยและรู้วิธีทำงานร่วมกันเพื่อประเทศก้าวหน้าโดยไม่มีความขัดแย้ง ประเทศก็จะไม่มีการปฎิบัติอีก
นายคริส กล่าวว่า พรรคเราได้วางแนวทางป้องกันรัฐประหาร คือ 1. การปฎิรูปกองทัพ ลดนายพล เลิกการเกณฑ์ทหาร จะสามารถดอำนาจกองทัพโดยรวมได้ 2. เราต้องทำให้ชัดว่าการรัฐประหารเป็นอาชญากรรม 3. ศาลต้องทำหน้าที่เป็นผู้พิทักสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ4. ผู้แทนของปวงชน ส.ส. เมื่อมีการทำรัฐประหารไม่มีคนออกมานำประชาชน และไม่มีการประกาศจะไม่รับอำนาจการรัฐประหาร ต้องประกาศอำนาจอธิปไตยต้องถูกสถาปนาอย่างแท้จริง พรรคเราขอยืนปักธงและก้าวไปพร้อมกับประชาชน
ด้านนายตรีรัตน์ กล่าวว่า ถ้าบอกว่าการรัฐประหารที่คือสิ่งที่ทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ตอนนี้ประเทศคงเจริญไปแล้ว แต่ความจริงคือไม่ใช่มีแต่ทำให้ประเทศถอยหลัง การทำรัฐประหารมีแต่เหตุผลสวยหรู เช่น เผด็จการรัฐสภา การทุจริตคอรัปชั่น ทหารต้องออกมาแก้ ซึ่งระบบรัฐสภาหากรัฐบางไม่สามารถบริหารงานได้ ต้องคืนอำนาจให้ประชาชน และจัดเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่การฉีกรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นเราจะสามารถแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร คือพรรคการเมืองต้องมาต่อสู่ในระบบรัฐสภา เราต้องทำให้ประชาชนคุมทหารให้ได้ และให้นายกฯ เป็นคนเลือกผบ.ทบ.เอง
นายรัฐภูมิ กล่าวว่า อยากให้พรรคการเมืองปรับเปลี่ยน การทำงานด้านการเมืองต้องเป็นแบบใหม่ ถ้าทุกพรรครักษากฎกติ มารยาท รัฐประหารในอนาคตไม่เกิดอย่างแน่นอน และในฝั่งประชาชนวันนี้เรียนรู้แล้วว่า 5 ปีที่ผ่านมารัฐประหารไม่ได้ทำให้ประเทศดีขึ้น ในอนาคตรัฐประหารเกิดขึ้นเพราะความวุ่นวาย ดังนั้นรัฐบาลและประชาชนต้องปรับเปลี่ยน คนที่มาเป็นรัฐจะต้องฟังประชาชนและมองประชาชน แต่ส่วนมากเมื่อมาเป็นรัฐบาลจะตาบอดและหูหนวกทันที
นายปัณณธร กล่าวว่า วันนี้ประชาธิปไตยต้องปราศจากการชี้นำ การซื้อสิทธิขายเสียง ถ้าเราทำการเมืองเข้มแข็งประชาชนเข้มแข็ง ทหารจะไม่สามารถมาทำอะไรเราได้ ทั้งนี้หนึ่งในนโยบายของเราคือต่อต้านเผด็จการและปฎิรูปทหาร และอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายทหารต้องมาจากนายกฯ เปลี่ยนกำลังทหารเป็นนักการทูต เพราะทุกสิ่งจบด้วยการเจรจา ต้องเปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า สนามการพัฒนา และย้ายกำลังทหารออกจากพื้นที่กทม.ถ้าเลือกพรรคเราไม่มีการปฎิวัติรัฐประหารอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า สำหรับนโยบายการแก้ทุจริตคอร์รัปชัน นายพริษฐ์ กล่าวว่า แก่นแท้ของพรรคประชาธิปัตย์ คือการสร้างระบบตรรวจสอบเข้มแข็ง ฉะนั้นพรรคเราจะทำการติดอาวุธประชาชนในการตรวจสอบ คือ 1.เรื่องของข้อมูลที่ละเอียดและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล 2. ช่องทางการร้องเรียน ต้องการสร้างแอพแจ้งโกง รวมศูนย์ใหญ่ 3.จะให้พื้นที่ของภาคประชาชน ผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้ามาสังเกตุการ ตั้งคำถามการจัดซื้อจัดจ้าง และ4.เพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนที่ตื่นตัว กล้าลุกขึ้นมาเปิดโปงการโกง คือแก่นแท้ในการติดอาวุธ แต่ท้ายที่สุดพรรคเราเชื่ออว่ามีมาตรฐานในการทำงาน
นายตรีรัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบาย ที่มีระบบที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วย ทั้งนี้เราเอาจริงเอาจัง มีการปฎิรูปเรื่องของข้อบังคับพรรค หากจับได้มีนักการเมืองโกงอยู่ในพรรคจะไล่ออกจากความเป็นสมาชิกพรรค หากเป็นส.ส. กฌตัดสิทธิในทันที ตนคิดว่าหากหน่วยงานอื่นๆ นอกจากป.ป.ช.จะต้องมีประชาชนร่วมตรวจสอบด้วย.