ข่าว'มาร์ค'ทัวร์อีสานรับแหวนหมั้นแทนสัญญากลับมาเป็นนายกฯ - kachon.com

'มาร์ค'ทัวร์อีสานรับแหวนหมั้นแทนสัญญากลับมาเป็นนายกฯ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และคณะ ลงพื้นพบปะ ประชาชน พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ในวันที่ 24 มี.ค. นี้ พร้อมขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส. อุบลราชธานีของพรรคทั้ง 10 เขตเลือกตั้ง โดยอภิสิทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัยถึง 6 เวที ทั้งนี้ในเวลา 09.20 น.ที่ศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์  เขต 10  อ.สำโรง  จ.อุบลราชธานี  นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า นโยบายเรื่องข้าวของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)มีลักษณะเหมือนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่เคยสร้างความเสียหายและทุจริตจำนวนมหาศาล แต่พรรคประชาธิปัตย์มีความแตกต่าง เราจะนำนโยบายประกันรายได้มาใช้กับข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง รวมไปถึงยางพารา และปาล์มน้ำมัน นอกจากการแก้ปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตรแล้ว ประชาธิปัตย์ยังมีนโยบายโฉนดสีฟ้า ต่อยอดจากโฉนดชุมชน เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องที่ทำกินให้ประชาชน ยืนยันว่าทุกนโยบายของประชาธิปัตย์ ผ่านการศึกษา ผ่านการวิจัย  ผ่านการลงพื้นที่สัมผัสกับปัญหาของประชาชน มั่นใจได้ว่าเป็นนโยบายที่แก้ปัญหา ตอบโจทย์ประชาชน  และไม่สร้างภาระให้กับประเทศชาติ
               
จากนั้น เวลา 11.00 น.  นายอภิสิทธิ์ ขึ้นเวทีที่ 2 ปราศรัยที่ สนามกีฬาเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร  จ.อุบลราชธานี  ขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และน.ส.บุณย์ธิดา สมชัย ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 8 พร้อมกล่าวปราศรัย ว่า วันนี้ประชาชนผู้มีสิทธ์เลือกตั้ง มี 3 แนวทาง คือ 1.เลือกประชาธิปัตย์ ได้แนวทางประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต  ด้วยนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ได้นมโรงเรียน อาหารเช้า-กลางวัน ตั้งแต่อนุบาลถึง ม.3  ได้เรียนฟรี ถึงปวส.จบมามีงานทำ ได้ประกันรายได้เกษตร ประกันรายได้ผู้ใช้แรงงาน และผู้มีรายได้น้อย  เบี้ยค่าตอบแทนอสม.  เบี้ยผู้สูงอายุ โฉนดชุมชน โฉนดสีฟ้า กองทุนน้ำชุมชน 2.เลือกพรรคพลังประชารัฐได้ชีวิตและเศรษฐกิจ เหมือน 5 ปีที่ผ่านมา 3.เลือกกลุ่มพรรคเพื่อไทยได้นโยบายรับจำนำข้าว รถคันแรก อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะประกาศว่าตัวเลขจีดีพีสูงขึ้น แต่ความเป็นอยู่ของประชาชนกลับสวนทาง ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้คนไทยมีความตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์แบบถล่มทลาย เพราะคนไทยเชื่อว่าเมื่อมีการเลือกตั้งเศรษฐกิจปากท้องจะดีขึ้น การเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจึงต้องเลือกอนาคตของตัวเองและประเทศให้เดินไปข้างหน้า เลือกแนวทางการเมืองที่ให้ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต



ต่อมา เวลา 14.30 น.  นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะ ขึ้นเวทีที่ 3 ปราศรัยที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ อ.ปทุมราชวงศา  จ.อำนาจเจริญ ขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิวัฒน์ เงินหมื่น ผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ  เขตเลือกตั้งที่ 2 โดยก่อนปราศรัย นายอภิสิทธิ์ ได้รับแหวนหมั้น แทนคำสัญญา ว่าจะต้องกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยพี่น้องประชาชนและบ้านเมืองออกจากวิกฤติเศรษฐกิจปากท้อง และวิกฤติการเมือง

นายอภิสิทธิ์ ปราศรัยว่า คนไทย 2 ล้านกว่าคน เข้าคิวใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า เพราะเชื่อว่าหลังเลือกตั้งชีวิต และเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น และหลังเลือกตั้ง ซึ่งไม่มีมาตรา 44 แล้ว ถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย หลังเลือกตั้งประชาชนต้องเป็นใหญ่ เมื่อมีการเลือกตั้งแล้วต้องฟังเสียงประชาชน คนที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีหัวใจเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง การบริหารบ้านเมืองต้องฟังเสียงประชาชน ยอมให้ประชาชนสะท้อนปัญหา เมื่อทราบปัญหาอะไรแล้วต้องใส่ใจและแก้ปัญหาประชาชน เป็นผู้นำประเทศต้องให้สื่อมวลชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ตรวจสอบได้ สิ่งเหล่านี้คือการทำให้ประชาชนเป็นใหญ่  ซึ่งเป็นอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ตั้งพรรค ถ้าพยายามตั้งรัฐบาลที่ได้นายกฯไม่ฟังเสียงประชาชน ไม่นานก็จะเกิดปัญหาขึ้นมา เป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่เข้าไปโกงกิน ทุจริต สุดท้ายบ้านเมืองก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีก ประชาธิปัตย์ขอยืนยันแนวคิดประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต.