'ภูมิธรรม'ชี้ถ้าเลือกตั้งยุติธรรม'บิ๊กตู่'ไม่ได้บริหารต่อ
การเมือง
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง มีการใช้กลไกอำนาจรัฐเอื้อให้ผู้มีอำนาจรัฐได้อยู่ต่อ ทั้งนี้หากผู้มีอำนาจรัฐแก้ไขปัญหาต่างๆให้ประชาชนได้ก็สามารถให้ประชาชนตัดสินใจได้ แต่วันนี้กลับคิดเองว่าอยากให้สังคมไทยไปทิศทางไหน พอทำงานได้สักระยะกลับสร้างกลไกให้ตัวเองอยู่ต่อ ดังนั้นสังคมไทยต้องไม่ติดในหลุมดำวาทกรรมความไม่สงบ เช่นที่บอกว่าถ้าเลือกไม่ดีจะมีการเดินขบวน เพราะวาทกรรมดังกล่าวเป็นการกดทับบทบาทประชาชนในการเลือกตั้ง และความสงบชั่วคราวที่มีนั้นเป็นความสงบที่เปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจดำเนินการต่างๆอย่างไร้การตรวจสอบ แต่กลับมีการตรวจสอบฝ่ายตรงข้ามอย่างเข้มงวดเช่นการดำเนินการกับผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทยในหลายพื้นที่ ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าระบบเดินหน้าตามวิถีทางที่ควรจะเป็น และกลไกการเลือกตั้งยุติธรรมพอ ไม่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. จะมีโอกาสกลับมาบริหารประเทศอีก และนายกฯกับพวกพ้องยังมีเรื่องที่สังคมอยากให้มีการตรวจสอบเป็นอย่างยิ่ง ตนอยากเห็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ฝากได้เพียงแค่ประชาชน เพราะแม้แต่องค์กรอิสระต่างๆตนก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำหน้าที่ได้อย่างเที่ยงธรรมและเต็มที่ เพราะวันนี้กลไกขององค์กรอิสระยังไม่เห็นอะไรที่เป็นการทำงานเชิงรุก ปล่อยให้มีการทำผิดเลือกตั้งซึ่งหน้า ซึ่งไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากความล้มเหลว หรือตั้งใจว่าเมื่อฝ่ายประชาธิปไตยได้รับชัยชนะแล้วจะใช้เป็นข้ออ้างล้มการเลือกตั้งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ หรือจะสร้างความสับสน
“วันนี้อย่ามาอ้างวาทกรรมว่าหยุดความวุ่นวายต่างๆแล้วไปจบที่ลุงตู่ ผมคิดว่าผิด ลุงตู่ควรจะจบ แต่ไม่ใช่กลับเรื่องความวุ่นวายแต่ลุงตู่ควรกลับบ้านไปกับคณะให้ประเทศหลุดพ้นสภาวะที่เป็นอยู่ จึงต้องหยุดกระบวนการต่อท่ออำนาจของเผด็จการให้ได้ ถ้ายังหยุดไม่ได้จะเป็นปัญหาต่อสังคมไทย ปี 2020 มีการวิเคราะห์ว่าวิกฤติเศรษฐกิจโลกกำลังจะมา ทางออกของสังคมไทยต้องเป็นประชาธิปไตยและสร้างความมั่นใจให้คนในโลก กระบวนการประชาธิปไตยต้องเป็นที่ยอมรับถึงจะเป็นทางออกประเทศ วันนี้ประชาชนต้องตัดสินใจด้วยวิจารณญาณ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้ต้องเอาชนะกลไกที่กดทับความต้องการของประชาชน ท่านต้องไปสู่กับความเตรียมพร้อมของอำนาจเดิมที่มี ส.ว. 250 รอตัดสินใจในทางที่เขาต้องการอยู่ เจตนารมของประชาชนต้องเบ็ดเสร็จเด็จขาดเพียงพอมากที่จะเปลี่ยนแปลงอำนาจที่ครอบคลุมสังคมอยู่ ถ้าจะเอาชนะส.ว. 250 คน และพรรคการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอำนาจเดิม และบางพรรคที่รอดูการตัดสินใจพระชาชนพร้อมเข้าข้างฝ่ายชนะ ตรงนี้เป็นปัญหาที่ประชาชนต้องตัดสินใจ เรามั่นใจมีความพร้อม ถ้าตัดสินใจเลือกเราต้องเลือกเราให้สามารถสู่กับ ส.ว. 250 คน จึงเป็นเหตุผลที่เราเสนอตัวว่าต้องเลือกเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย ในการทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยที่มีพรรคเพื่อไทยประกาศตัวเป็นแกนนำเอาพลังฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมดสู่กับพลังอำนาจเดิมให้ได้ และพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในการทำงาน” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมเป็นรัฐบาลและพร้อมจัดตั้งแนวร่วมประชาธิปไตยทำให้รัฐบาลประชาธิปไตยฝ่าวิกฤติประเทศไปได้ เมื่อถามว่าถ้าคนเลือกเพื่อไทยมาแต่มีไม่มากพอ นายภูมิธรรม ตอบว่า ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยได้เสียงเกิน 250 ส.ว. 250 คนต้องพิจารณาเจตนารมณ์ประชาชน และถ้าพรรคฝ่ายผู้มีอำนาจได้เสียงน้อย ลุงๆทั้งหลายก็ไม่มีความชอบธรรมในการเดินหน้าต่อ และไม่เชื่อว่าฝ่ายของลุงจะได้คะแนนเกินร้อยและพรรคที่ทำตัวไม่ชัดเจนประกาศตัวคลุมเครืออยู่ก็จะได้ไม่ถึงร้อย และวันนี้มองว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องประกาศตัวให้ชัดเจนว่าจะยืนอยู่ฝากไหนให้ประชาชนได้ตัดสินใจ พรรคเพื่อไทยชัดเจนไม่หนุนการสืบทอดอำนาจ วันนี้เราโน้มน้าวให้ประชาชนตัดสินใจ เมื่อถามว่าถึงเวลาจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า พรรคประชาธิปัตย์มีเงื่อนไขของเขาแต่เราชัดเจนจับมือกับฝ่ายประชาธิปไตย และเจตนารมณ์ที่ประชาชนมอบให้ฝ่าวิกฤติประเทศ