'อุตตม'ลั่น'พปชร.'มาแน่ จูงมือส.ส.กว่า150คนเข้าสภา
การเมือง
-
สนับสนุนเนื่อหา
-
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสตอบรับพรรคพลังประชารัฐ ในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนการออกเสียงเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้ว่า จากการประเมินคะแนนไว้หลายทาง ทั้งจากพื้นที่และคะแนนภาพรวมพบว่าพรรคพลังประชารัฐกระแสตอบรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พรรคมั่นใจว่าจากการทำงานในพื้นที่ที่เต็มที่ โดยผู้สมัคร ส.ส. ที่นำเสนอนโยบายถึงประชาชน ทำให้พรรคมีโอกาสมากต่อบทบาทผู้นำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคประเมินคะแนนที่ได้รับเบื้องต้น คาดว่าจะทำให้ได้ส.ส.เข้าสภามากถึง 140-150 ที่นั่ง และในทางปฏิบัติ การฟอร์มตั้งรัฐบาลทุกสมัยที่ผ่านมา คือพรรคที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ โดยพรรคมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวบเสียงให้ได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ที่มี 500 เสียง คือ 250 เสียงได้แน่นอน
หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวถึงการพิจารณาเลือกพรรคการเมืองที่จะเข้าร่วมเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ด้วยว่า ขณะนี้พรรคยังไม่มองพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษหรืออยู่ในโควต้า เพราะต้องรอดูผลการเลือกตั้ง วันที่ 24 มี.ค.นี้ก่อนและเมื่อรับทราบถึงผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคจึงจะหารือต่อการรวบเสียงจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
"พรรคพลังประชารัฐจะแตะมือกับใครนั้น ขึ้นอยู่กับเสียงที่ได้ แต่ตอนนี้ภาพเริ่มชัดเจนจากแนวทางการนำเสนอนโยบายของหลายพรรค โดยพรรคมีจุดยืนต่อการร่วมรัฐบาลเพียงสิ่งเดียวคือ การมีอุดมการณ์เดียวกันต่อการทำงานเพื่อสร้างและทำประโยชน์เพื่อประชาชนได้อย่างแท้จริง ภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปประเทศ และทำให้ชาติพัฒนาก้าวหน้า คนไทยต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ ส่วนพรรคไหนที่มีพฤติกรรมที่ทำผิดกฎหมาย ผิดกติกา หรือ มีพฤติกรรมขัดกับธรรมเนียมของสังคม แน่นอนว่าพรรคจะไม่พิจารณาร่วมทำงานด้วย" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
นายอุตตม กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคพลังประชารัฐจะร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอนาคตใหม่ ที่ประกาศไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่พรรคสนับสนุนได้หรือไม่ว่า ตนไม่อยากให้ทุกพรรคการเมืองสร้างเงื่อนไขใดๆ ในทางการเมือง และทุกพรรคควรเน้นเรื่องนำเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจก่อนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง วันที่ 24 มีนาคม ว่าควรใช้สิทธิลงคะแนนเลือกพรรคไหน ที่นำเสนอนนโยบาย ซึ่งเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ตนไม่อยากให้ทุกพรรคเน้นว่าจะร่วมมือ หรือร่วมงานกันใคร หรือพรรคไหนได้หรือไม่ เพราะยังไม่ถึงเวลา เพราะสิ่งที่ประชาชนคาดหวังที่สุดตอนนี้ คือ คนที่มีศักยภาพเข้าไปทำงานเพื่อประเทศ และแก้ปัญหาให้ประชาชนได้อย่างแท้จริงซึ่ง พรรคพลังประชารัฐเชื่อมั่นในศักยภาพว่าเป็นพรรคการเมืองเดียวที่เหมาะกับความต้องการของประชาชน.