'เพื่อชาติ'เดินสาย 7เวที 4จว.อีสานชิงคะแนนวันสุดท้าย
การเมือง
นายจตุพร กล่าวอีกว่า อันดับแรก เราต้องพาให้ฝั่งประชาธิปไตยนี้เดินไปถึง 376 เสียงในแผนแรก แผนที่ 2 คือ เกิน 251 เสียง อย่างที่ตนบอกว่า ระบบบัตรใบเดียวต้องข้ามความรู้สึกส่วนตัวจริงๆ ถ้าต้องการชนะเผด็จการ เลือกพรรคใหญ่ไปชนเพดาน เราจำเป็นที่จะต้องมีพรรคเพื่อชาติไว้เติมเต็มคะแนนให้กับฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยชนะ พรรคเพื่อชาติก็ร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่ไม่มีวันที่จะไปร่วมสืบทอดอำนาจกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.โดยเด็ดขาด ส่วนการขึ้นเวทีปราศรัยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของพล.อ.ประยุทธ์นั้น พล.อ.ประยุทธ์ถึงที่สุดก็พบสัจธรรม คือถ้าชนะเห็นเห็นพล.อ.ประยุทธ์ก็คงที่จะไม่จำเป็นที่จะต้องออกตัวในเวทีสุดท้าย และพูดก็ไม่กี่นาทีกับอีกหนึ่งเพลง ซึ่งก็ไม่ได้เนื้อหาสาระอะไรที่เป็นสิ่งใหม่ หรือวิธีการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ การออกมาครั้งนี้ เป็นเพียงการแสดงตัวเสียมากกว่า
นายจตุพรกล่าวอีกว่า วันเดียวกันนี้พรรคเพื่อชาติเปิดตัว คลิปวีดีโออีก 1 ชุด ซึ่งเป็นแคมเปญสุดท้าย ชื่อแคมเปญว่า “เลือกเพื่อชาติ ปิดฉากเผด็จการ” ซึ่งเนื้อหาได้ชี้ให้เห็นว่า แม้พรรคเพื่อชาติจะเป็นพรรคที่ยากจน แต่ก็มีหัวใจและจุดยืนประชาธิปไตยที่พร้อมจะเข้ามารับใช้ประชาชนเพื่อขับไล่เผด็จการ และโค้งสุดท้ายพรรคเพื่อชาติ เดินสาย 7เวที 4จังหวัดภาคอีสาน พร้อมปิดฉากเผด็จการ เวทีใหญ่ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อชาติ ต.ศรีสุทโธ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี , บ้านนาสิงห์ อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ , หน้าตลาดสดอำเภอบึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ , ตลาดศรีพนา อ.เซกา จ.บึงกาฬ , สนามกีฬาเทศบาล อ.บ้านแพง จ.นครพนม และสุดท้าย ปราศรัยใหญ่สุดของภาคอีสาน “เลือกเพื่อชาติ ปิดฉากเผด็จการ” ที่โรงเรียนบ้านวังยาง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร.