'อนุทิน'ย้ำยังไม่คุยจัดตั้งรัฐบาล รอกกต.ประกาศผลเลือกตั้ง
การเมือง
จากนั้นนายอนุทินยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า “เรียน สมาชิกพรรคภูมิใจไทยที่เคารพ แม้กกต. จะยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ทุกท่านน่าจะทราบผลการนับคะแนนแล้ว ผมขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้คะแนนเป็นที่ 1 และขอให้กำลังใจทุกๆ ท่านที่ได้รับคะแนนจากพี่น้องประชาชน แม้ว่าจะไม่ชนะการเลือกตั้งก็ตาม เป็นธรรมดาของการแข่งขันที่จะมีผู้ชนะและผู้แพ้ ในฐานะนักการเมืองทุกคนต้องยอมรับ เพราะเป็นการตัดสินของประชาชน ถ้าเราไม่ท้อถอยและนำข้อผิดพลาดมาปรับปรุง ทำให้ประชาชนเข้าใจแนวทางการทำงานของเราและความปรารถนาดีของเรามากขึ้น เราจะได้รับโอกาสมากขึ้น ผมขอให้สมาชิกพรรคภูมิใจไทยทุกท่าน ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ลงคะแนนให้ และขอให้มั่นใจว่าพวกเราจะจับมือกันเดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศไทยและแก้ปัญหาปากท้องประชาชน นโยบายที่เราพูดไว้กับประชาชนจะต้องได้รับการปฏิบัติให้เกิดผล เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนจับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน”
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายอนุทินนั้นตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา (25 มี.ค.) นายอนุทินยังไม่ได้เดินทางเข้ามาที่ทำการพรรคภูมิใจไทย บางเขน กทม. แต่อย่างใด มีเพียงแกนนำพรรค อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย และนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ที่เดินเข้ามาที่ทำการพรรคแล้ว เพื่อติดตามผลการนับคะแนนและการแถลงข่าวของคณะกรรมการกสรเลือกตั้ง (กกต.) ในช่วงบ่าย
ทั้งนี้นายศุภชัย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีความพึ่งพอใจกับผลการเลือกตั้ง โดยสามารถคว้าที่นั่งส.ส.แบบแบ่งเขตได้ถึง 39 เขต ส่วนแบบบัญชีรายชื่ออยู่ระหว่างการคำนวณตัวเลขที่นั่ง ซึ่งคะแนนก็เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยเฉพาะในจ.บุรีรัมย์ที่เป็นไปตามคาด คือได้รับชัยชนะยกจังหวัดทั้ง 8 เขต และยังสามารถเจาะฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ได้มากถึง 7 ที่นั่ง นับว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของพรรคที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะผลการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ทำได้เพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามตนคิดว่าสาเหตุที่สามารถเจาะคะแนนเสียงที่เป็นฐานเดิมของพรรคเก่าแก่ได้นั้น เนื่องจากชาวภาคใต้รอการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับนโยบายของพรรคภูมิใจไทยเป็นนโยบายท้องถิ่นที่เป็นรูปธรรมทำให้คนใต้ไว้วางใจ ขณะที่ทิศทางของพรรคต่อจากนี้ ต้องรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากกกต. ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก รวมถึงนโยบายของพรรคที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะต้องให้การยอมรับด้วย แต่จะเดินหน้าไปในทิศทางไหน ต้องรอให้นายอนุทินเป็นผู้แถลงท่าทีที่ชัดเจนด้วยตัวเองต่อไป