ข่าว'หมอวรงค์'เปิดใจยอมรับ พ่ายแพ้ให้กับ'อนาคตใหม่' - kachon.com

'หมอวรงค์'เปิดใจยอมรับ พ่ายแพ้ให้กับ'อนาคตใหม่'
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s

จากกรณีผลการเลือกตั้งส.ส.เขต 1 ของ จ.พิษณุโลก นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แพ้การเลือกตั้ง ให้กับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา จากอนาคตใหม่ สร้างความประหลาดใจให้แก่ชาวเมืองพิษณุโลกเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายแพทย์วรงค์ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวที่ จ.พิษณุโลกว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ตนต้องขอขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจในทุกคะแนนเสียงซึ่งตนเองยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ แต่ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของตนเองเท่านั้น ถือเป็นความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ความเห็นส่วนตัวของผมความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากตัวผู้สมัครอย่างเดียว แต่ปัญหาใหญ่คือยุทธศาสตร์ของพรรค พรรคมีความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ของพรรคที่ผ่านมาเราควรต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมากกว่า แต่ไม่ควรไปต่อสู้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเราประเมินความผิดพลาดเป็นอย่างมาก

"ผมว่าพรรคเราเปิดเกมส์ที่เราไม่ถนัด พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก่าแก่กว่า  70 ปี เรากลับไปเปิดเกมส์กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเกมส์ที่เราไม่ถนัด 3 สิ่งนี้มันทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายเรา ความเชื่อมั่นของพรรคประชาธิปัตย์ลดน้อยลง และสุดท้ายประชาชนก็ลงโทษเรา ซึ่งทำให้เห็นว่าวันนี้กรุงเทพฯ เราสูญพันธุ์ ภาคเหนือเหลือเราแค่คนเดียวอีสาน และภาคใต้ ก็หายไปเยอะ และหลายพื้นที่ก็หายไปเยอะมาก คิดว่าในเมื่อเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ก็ไม่ท้อแท้แต่อย่างใด ถึงเวลาที่พวกเราประชาธิปัตย์ต้องปิดประตูห้องมาคุยกัน เพราะวันนี้นักรบในพื้นที่ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของพรรคเป็นฝ่ายพ่ายแพ้คนชนะเป็นคนส่วนน้อย เราต้องเปิดใจคุยกันในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพรรคประชาธิปัตย์ครั้งใหญ่ ทั้งเปลี่ยนวิธีคิดวิธีทำงาน เปิดใจให้กว้างรับฟังความคิดเห็นคนส่วนใหญ่และเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ใช่เดินหน้าเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง" นายแพทย์วรงค์ กล่าว



ต่อข้อถามที่ว่า อนาคตพรรคจะเดินทางไปทิศทางใด นายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า ตนเองพูดเสมอว่าพรรคประชาธิปัตย์คือ "บ้าน" คิดว่าจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้น เราจะต้องไปพูดคุยกันและต้องมาช่วยสร้างพรรคขึ้นมาใหม่ อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยเพราะครั้งนี้ไม่ใช่แค่อับปางแค่เล็กน้อย แต่มันกลายเป็นซากปรักหักพังซึ่งต้องใช้เวลาและใช้พลังร่วมกัน ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ตนเองคิดว่ายุทธศาสตร์พรรคถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งหากผู้สมัครแต่ละคนไม่ทำงานก็ว่ากันไป แต่ตนเองดูแล้วทุกคนทำงานกันหมดและมั่นใจกันมาตลอด แต่เมื่อวางยุทธศาสตร์ผิดพลาดก็ไปกันใหญ่ ตนเองเน้นย้ำศัตรูของพรรคประชาธิปัตย์คือพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประยุทธ์ พรรคพลังประชารัฐ ควรเป็นแนวร่วม สู้กันพอประมาณ และที่สำคัญเกมส์ของคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่เกมส์ที่เราถนัด ซึ่งตนเองยืนยันว่าคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่านั้นต้องผสมผสานร่วมกันแต่เราก็ไปเล่นในเกมส์ที่เราไม่ถนัด ประชาชนเห็นแล้วก็ไม่ชอบกับเรา

ผู้สื่อข่าวถามว่าหัวหน้าพรรคไม่มีแล้วต้องทำอย่างไรต่อนายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีเสน่ห์อยู่อย่างคือเรามีระเบียบ มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ชัดเจนและต้องมีการประชุมร่วมกันของคณะรักษาการพรรค สุดท้ายก็จะได้ผู้บริหารพรรคแต่แนวคิดตนเองรอบนี้ผู้ที่จะนำพาพรรคประชาธิปัตย์ต้องมาช่วยกัน จากหลายๆ ส่วนจะคิดเห็นตรงกันหรือไม่ตรงกันก็ต้องมาคุยกันเพราะนี้คือบ้านเราช่วยกันสร้างใหม่ ซึ่งต่อจากนี้ตนมีเงื่อนไข 2 ข้อ คือ ผู้ที่เป็นผู้บริหารพรรคต้องชนะหรือมากกว่าเดิมเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าคนนำพาพรรคจะต้องพาไปเรื่อยๆหากไม่ได้ข้อใดข้อหนึ่งก็คงต้องออก เพื่อให้คนใหม่เข้ามา พรรคจะได้โตขึ้นเรื่อยๆไม่ควรอยู่ต่อ และต้องเน้นย้ำคือไม่ควรมีการสืบทอดอำนาจในพรรคประชาธิปัตย์เราต้องเปิดใจให้กว้างพวกเราที่อยู่บ้านหลังนี้คือพรรคประชาธิปัตย์อย่าไปกล่าวหากัน ช่วยกันทำงานต่อไป.



ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอวรงค์'อัด'มาร์ค'พลาด ไม่รบศัตรูเดิม-เพิ่มศัตรูใหม่
กก.บห.ปชป.จ่อเลือกหัวหน้าคนใหม่เร็วๆนี้
"มาร์ค"ประกาศทิ้งเก้าอี้ หัวหน้าพรรคปชป.แล้ว