คนสุราษฎร์สั่งสอน'สุเทพ' ทำตระกูล'เทือกฯ'แพ้กราวรูด
การเมือง
แต่เมื่อภายหลังนายสุเทพ ได้ยุติการเดินทางกับพรรคประชาธิปัตย์ แล้วตามมาด้วยการก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย หรือที่เป็นนัยยะว่า เป็นพรรคของ กลุ่มแนวร่วม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่ร่วมกันต่อสู้ทางการเมืองจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาล
การเดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ของนายสุเทพ ได้หนีบเอา อดีต ส.ส.บางส่วนจากพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี น้องชายทั้ง 2 คน คือ ธานี เทือกสุบรรณ อดีต สส.เขต 1 และ นายเชน เทือกสุบรรณ อดีต สส.เขต 4 ตามนายสุเทพ มาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามรวมพลังประชาชาติไทย ด้วยเชื่อว่า ตระกูลเทือกสุบรรณ จะได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากชาว จ.สุราษฎร์ธานี อย่างเช่นในอดีต แต่ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 62 กลับทำให้อดีต สส.ตระกูลเทือกสุบรรณ 2 คน ต้องถูกลบชื่อออกจากรายชื่อ ส.ส.สุราษฎร์ธานี แล้วยังทำให้หลานชาย นายภูมิ เทือกสุบรรณ อดีต สจ.หนุ่มไฟแรง ที่ลงสมัครในนามพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในพื้นที่เขต 6 ต้องอดเข้าสภาฯไปด้วย
ในเขตเลือกตั้งที่ 1 “ธานี เทือกสุบรรณ” หรือ กำนันเล็ก ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งการเมืองท้องถิ่นที่สำคัญ คือ นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี และเป็นบุคคลที่ชาวสุราษฎร์ธานี ไว้เนื้อเชื่อใจมาตลอด กลับต้องพ่ายให้กับ “ภานุ ศรีบุษยกาญจน์” ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ครั้งแรกในนามพรรคประชาธิปัตย์อย่างหมดท่า เมื่อ ภานุ ได้รับคะแนนเสียง 30,287 คะแนน ทิ้งห่างกำนันเล็ก ที่มีเพียง 11,635 คะแนน ที่สำคัญ ยังมีผู้สมัครหน้าใหม่ จาก 2 พรรคการเมือง คือ พลังประชารัฐ ที่มาเป็นอันดับ 2 ได้ไป 14,899 คะแนน และ พรรคอนาคตใหม่ อันดับ 3 ด้วยคะแนน 13,336 คะแนน
และในเขต เลือกตั้ง ที่ 4 ซึ่งเป็นการแย่งชิงพื้นที่กันระหว่าง นายเชน เทือกสุบรรณ น้องชายคนเล็กของนายสุเทพ ในนามพรรครวมพลังประชาชาติไทย กับ นายสมชาติ ประดิษฐพร อดีตประธานสภา อบจ.สุราษฎร์ธานี และลงสนามเลือกตั้ง ส.ส.เป็นครั้งแรก และเป็นตัวเลือกเข้ามาทดแทนนายเชน เทือกสุบรรณ ที่ทิ้งพรรคไปอยู่กับพี่ชาย ในเขต 4 มีผู้วิเคราะห์ก่อนการเลือกตั้งว่า จะเป็นเขตหนึ่งที่มีการล้มช้าง เพราในการเลือกตั้งปี 2554 นายเชน มีคะแนนได้รับเลือกถึง 72,864 คะแนน ทิ้งห่างคู่ต่อสู้จากพรรคอื่น ๆ อย่างราบคาบ แต่ในการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม นายเชน กลับต้องสูญเสียคะแนน และตำแหน่ง ส.ส.ให้กับนายสมชาติ ประดิษฐพร ที่ชนะอย่างถล่มถลาย กว่า 30,000 คะแนน โดยนายเชน ได้คะแนนเป็นอันดับ 2 ได้ 13,955 คะแนน นายสมชาติ เป็นอันดับ 1 ได้ 46,126 คะแนน และนายสมชาติ เป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งมากเป็นอันดับ 1 ของ จ.สุราษฎร์ธานี
ขณะที่ นายภาสกร จรูญรัตน์ ตัวแทนพรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า แม้พรรคประชาธิปัตย์ จะป้องกันที่นั่ง ส.ส.ทั้ง 6 เขต ของ จ.สุราษฎร์ธานี เอาไว้ได้ แต่ผลการเลือกตั้ง ทำให้เราตระหนักว่า ตัวบุคคลมีผลต่อคะแนนเสียงเป็นอย่างมาก แม้ว่าความนิยมในพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา จะมีมากกว่าร้อยละ 74 แต่ความนิยมต่อตัวผู้สมัครก็มีความสำคัญไม่น้อย และการที่ชาว จ.สุราษฎร์ธานี เลือกผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์แบบยกทีมนั้น เชื่อว่าเป็นการสั่งสอน และปราบ ส.ส.ของพรรค ไม่ให้นอกลู่นอกทาง