คุมเข้มสงกรานต์!เมาขับชนคนตายติดคุก-คนนั่งโดนด้วย
การเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ครม.เห็นชอบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 62 โดยใช้มาตรการลงโทษผู้ขับรถที่ทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งในเรื่องทรัพย์สินของประชาชนและอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาว่าด้วยประมาทอย่างเดียว ใช้วิธีเจรจาชดใช้ค่าเสียหายแล้วก็จบไม่ได้ ต้องมุ่งไปสู่การพิจารณาลงโทษคดีอาญาด้วย ซึ่งมีกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่กฎหมายใหม่ และจะว่าไปรังแกประชาชนอีก ซึ่งตนขอให้กฎหมายทุกอันได้รับความร่วมมืออย่าดื่มเหล้าเมื่อขับรถ ดังนั้นขับรถแล้วดื่มเหล้าชนคนตายต้องติดคุก เพราะกฎหมายเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่ทำก็ละเว้น ก็ขอให้ทุกคนระมัดระวังใช้รถใช้ถนน หากใช้ความเร็วที่มากเกินไปและมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นจะต้องลงโทษคดีอาญาและคดีแพ่ง ไม่อย่างนั้นก็หลุดกันหมดไม่อย่างนั้นก็หลุดกันหมด รัฐบาลเอาจริงเอาจังแบบนี้ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ โดยที่ไม่ใช่กฎหมายใหม่ ขอเตือนผู้ที่ขับรถด้วยความคึกคะนอง คนที่ชอบดื่มเหล้าเวลาขับรถ แม้กระทั่งคนที่ร่วมเดินทางไปด้วย ก็ต้องถูกพิจารณาด้วยที่ไม่ห้ามปราม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลเอาจริงเอาจังแบบนี้ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ โดยที่ไม่ใช่กฎหมายใหม่ ขอเตือนผู้ที่ขับรถด้วยความคึกคะนอง คนที่ชอบดื่มเหล้าเวลาขับรถ แม้กระทั่งคนที่ร่วมเดินทางไปด้วย ก็ต้องถูกพิจารณาด้วยที่ไม่ห้ามปราม ดังนั้นผู้ที่ขับรถโดยสารและรถแท็กซี่ต้องไม่ขับรถด้วยความประมาท ทำให้เกิดความสูญเสียกับผู้อื่น สงสารเขาบ้างก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลอยากจะย้ำเตือนในช่วงใกล้วันสงกรานต์หรือแม้แต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม
อย่างไรก็ตามกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งครม. ถึงแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2562 โดยจะรณรงค์โครงการ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยการจราจร” แบ่ง เป็น 3 ช่วงระยะดำเนินการ คือ 1 . ช่วงประชาสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 11 มี.ค.-17 เม.ย.นี้ โดยจะมีสปอร์ตโฆษณาต่างๆ ตามสื่อฯ เพื่อส่งเสริมให้ร่วมกันระมัดวัง มีน้ำใจ และระวังอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนน 2.ช่วงเตรียมความพร้อม และรณรงค์ ระหว่างวันที่ 18 มี.ค.-10 เม.ย. และ 3. ช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 11 -17 เม.ย. โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ. และการป้องกันการเกิดอุบัติภัยต่างๆ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย กำหนด 7 มาตรการสำคัญ คือ 1. ลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจังและต่อเนื่อง ด้านสังคมและชุมชน ด้านการรับรู้และสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน 2.ลดปัจจัยเสี่ยงด้านการใช้รถใช้ถนน 3.ลดปัจจัยเสี่ยงด้านการใช้รถสาธารณะ 4 .มาตรการช่วยเหลือหลังการเกิดอุบัติเหตุ 5.มาตรการความปลอดภัยทางน้ำ 6. มาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และ 7.มาตรการการบริหารจัดการ.