ข่าวนายกฯห่วงฝุ่นพิษภาคเหนือ สั่งเร่งแก้ไขเข้มข้น - kachon.com

นายกฯห่วงฝุ่นพิษภาคเหนือ สั่งเร่งแก้ไขเข้มข้น
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ห่วงใยสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา ที่คุณภาพอากาศมีผลต่อสุขภาพของประชาชน โดยได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการทุกหน่วยงานแก้ไขปัญหาอย่างเข้มข้นตามมาตรการ 4 ระดับ และหากปัญหามีความซับซ้อนเกินกำลังของจังหวัด ขอให้เร่งประสานขอความช่วยเหลือไปที่ส่วนกลาง รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

"นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด โดยได้รับรายงานว่าทุกจังหวัดที่ประสบปัญหาได้ลดฝุ่นทั้งฉีดละอองน้ำในอากาศ ควบคุมไฟป่าและรถควันดำ ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งได้รับการสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในภาคเหนือมาจากการเผาป่าและวัชพืช จึงขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผา ส่วนประเทศเพื่อนบ้านนั้นรัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้หยุดการเผารอบชายแดนเพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง ซึ่งทางเมียนมาให้การตอบรับเป็นอย่างดี" ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว



นางอำนวยพร ชลดำรงค์กุล รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นตัวแทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดโครงการลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ 9 จังหวัดภาพเหนือ ภายใต้แนวคิดร่วมแรงร่วมใจ คืนคนดีสู่สังคม ขจัดภัยไฟป่า โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่าง กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมราชทัณฑ์ และจ.ลำปาง ในการกำจัดเชื้อเพลิงบริเวณดอยพระบาท ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง และแนวป่าใกล้เคียง เนื่องจากตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมาเกิดไฟป่าลุกลามเป็นวงกว้างหลายครั้ง ซึ่งเกิดจากการจุดไฟเผาป่าจากประชาชนที่ไม่มีจิตสำนึก จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังช่วยกันดับไฟอย่างต่อเนื่อง โดยดอยพระบาทถือว่าเป็นแนวเขาสูงที่อยู่ใกล้ตัวเมืองลำปาง และอยู่ใกล้ศูนย์ราชการเพียง 3 กม.

จากสถานการณ์ดังกล่าว กรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (mou) กับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อร่วมกันป้องกัน ควบคุมดูแล ฟื้นฟู พื้นที่ป่าที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ และกรมราชทัณฑ์ ให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน โดยการนำกำลังนักโทษชั้นดีที่ใกล้พ้นโทษ หรืออยู่ในเกณฑ์ที่สามารถออกทำงานนอกเรือนจำได้ ไปช่วยเจ้าหน้าที่เสือไฟ และเจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟดับไฟป่า รวมถึงการทำแนวป้องกันไฟป่า ร่วมกันสร้างพื้นที่สีเขียว โดยการปลูกป่าในพื้นที่ที่กรมราชทัณฑ์รับผิดชอบ รวมถึงการสร้างป่าในเมือง ในพื้นที่เรือนจำทั่วประเทศ ที่มีศักยภาพสูงที่จะสามารถพัฒนาเชิงรุกได้ โดยเฉพาะผู้ต้องขังที่เป็นผู้ต้องหาคดีป่าไม้ ให้กลับมาทำหน้าที่อนุรักษ์พื้นที่ป่า ซึ่งบุคคลเล่านี้จะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอยู่แล้วแต่หากว่าในอดีตเป็นการหลงผิดทำผิด เมื่อต้องโทษจนพ้นโทษและกลับตัวเป็นคนดีของสังคม นำเอาสิ่งที่เขามีประสบการณ์มาก่อนให้ปฏิบัติ

นางอำนวยพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ร่วมกันบริหารจัดการไม้ของกลาง ที่ได้จากการกระทำความผิด ที่คดีถึงถึงที่สุด และถูกยึดเป็นของแผ่นดิน มาใช้ประโยชน์ในการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง ซึ่งจะส่งผลให้นักโทษมีรายได้ เพิ่มทักษะในการทำงาน ขณะที่เงินรายได้ส่วนหนึ่งก็จะส่งมอบคืนให้กับกองทุนมูลนิธิผู้พิทักษ์ป่า

ทั้งนี้ตนได้เป็นตัวแทนพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจากสถานีควบคุมไฟป่าเขาใหญ่ และสถานีควบคุมไฟป่าทับลาน กรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่ได้รับบาดเจ็บขณะมาช่วยปฏิบัติงานดับไฟป่าในพื้นที่จ.ลำปางจำนวน 3 ราย ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอาการปลอดภัย และได้กลับไปรักษาตัวที่บ้านแล้ว 2 คน.