ข่าว'วิษณุ'ชี้พท.โชว์รวมเสียงแค่จิตวิทยา รอผล9พ.ค.เท่านั้น! - kachon.com

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ว่า เป็นเรื่องของเขา ใครที่คิดว่าตัวเองมีความพร้อมจะช่วงชิงอะไรก็ทำไป แต่ไม่ได้มีผล มีผลด้านจิตวิทยาและการรับรู้ของสังคมในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่จะสิ้นสุดและยุติไม่ได้ เพราะผลอย่างไม่เป็นทางการเพียง 95 เปอร์เซ็นต์เพิ่งจะประกาศไป ยังมีที่เหลืออีกหลายคะแนนอยู่  และจากนี้จะต้องมีการดำเนินคดีและดำเนินการอีกหลายเรื่อง เพราะมีผู้มาร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบก่อน ฉะนั้นทั้งหมดจึงยังไม่มีความแน่นอนอะไร ตราบใดที่ยังไม่มีการโหวตเลือกนายกฯ

เมื่อถามว่า กกต.ระบุว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค. ฉะนั้นตามกรอบเวลาแนวโน้มจะได้รัฐบาลใหม่จะเป็นช่วงเดือน ก.ค.นี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้ากกต.ระบุว่าจะประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค. หลังจากนั้นภายใน 3 วันก็จะมีการเสนอชื่อส.ว. ซึ่งอาจจะเสนอก่อนนั้นก็ได้  แต่ต้องไม่ช้ากว่า 3 วัน และจะไม่ใช่การประกาศ แต่จะเป็นการเสนอชื่อเพื่อทูลเกล้าฯถวายเท่านั้น การประกาศจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งลงมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อใด ขณะเดียวกันหากมีการประกาศผลการเลือกตั้งในวันที่ 9 พ.ค. ก็ต้องนับไปอีก 15 วัน ซึ่งภายใน 15 วัน ส.ส.หน้าใหม่ และส.ว.หน้าใหม่จะต้องมารายงานตัว และเมื่อรายงานตัวเรียบร้อยแล้ว รัฐบาลจะต้องกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปิดการประชุมรัฐสภาครั้งแรก ซึ่งโดยหลักแล้วบุคคลที่จะมาเข้าเฝ้าจะต้องเป็นส.ส.และสว.หน้าใหม่

นายวิษณุ กล่าวว่า หลังจากนั้น 1-2 วันจะมีการเลือกประธานสภาฯ และหลังจากโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานสภาฯแล้ว ประธานสภาฯจะมีหน้าที่เรียกประชุมนัดแรก เพื่อให้สมาชิกปฏิญาณตน และเริ่มการโหวตเลือกนายกฯ โดยจะทำได้ช่วงปลายเดือน พ.ค. จนถึงต้นเดือนมิ.ย. จากนั้นนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง เมื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งแล้วนายกฯต้องหาคณะรัฐมนตรี (ครม.)ไม่เกิน 35 คน ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่าจะนานเท่าใด แต่ในช่วงเวลานี้นายกฯจะทำงานอะไรไม่ได้  ซึ่งตอนนี้จะชัดเจนว่าใครจะรวมกับใคร  ทั้งนี้เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการหมดแล้ว ตั้งครม.ได้แล้ว ต้องนำความกราบบังคมทูล และเมื่อโปรดเกล้าฯลงมา ก็ต้องกราบบังคมทูลซ้ำอีกครั้ง เพื่อขอพระราชทานโอกาสนำครม.เข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อนั้นครม.ชุดเดิม คสช. และอำนาจตามมาตรา 44 จะสิ้นสุดลง และครม.ชุดใหม่เริ่มทำงานได้ทันที โดยจะต้องแถลงนโยบายภายใน 15 วัน.