โต้พปชร.6พรรคทำตามกติกา ฟุ้งคะแนนรวมทะลุ13ล้านแล้ว
การเมือง
นายปิยบุตร กล่าวว่า วันนี้นับคะแนนเสร็จแล้ว แต่ไม่ประกาศคะแนน ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องรับรองส.ส.ภายใน 60 วัน กฎหมายบอกว่า ร้อยละ 95 ก็เปิดประชุมสภาได้ก่อน แต่กกต.ไปออกระเบียบกกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ข้อ 169 ขึ้นมาว่า ให้นับคะแนนเสร็จแล้วแสดงผลอย่างไม่เป็นทางการไม่เกินร้อยละ 95 ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะออกมาแบบนี้ทำไม ตามรัฐธรรมนูญบอกให้นับให้จบ แล้วก็ค่อยร้องเรียนคัดค้านกัน กกต.จะแจกใบเหลือง ใบส้ม ก็ว่ากัน แต่ปัจจุบันกกต.สับสนปนเป นำการนับคะแนน การประกาศคะแนน การรับรองผล มารวมกันไปหมด ถ้าทำตามเดิมคือ นับให้จบเปิดร้องเรียนพอครบร้อยละ 95 ก็ให้เปิดประชุมสภา
ด้าน น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ประชาชนยังคงเป็นห่วงทวงถามผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคอนาคตใหม่เดินทางไปยื่นหนังสือให้กกต.เปิดเผยมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ 3 วันผ่านไปแล้ว ยังไม่ได้ผลคะแนนดิบจากกกต. เมื่อดูการเลือกตั้ง ปี 2554 จะเห็นว่า ใช้เวลาเพียง 7 ชั่วโมงก็ทราบผลแล้ว เมื่อช่วงบ่ายทีผ่านมากกต.และเลขาฯ ไม่ยอมมารับหนังสือจากหัวหน้าพรรคทั้ง 6 ด้วยตนเอง ทั้ง 6 พรรค จึงส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือ ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไร สาระสำคัญของข้อเรียกร้องคือ 1.เปิดเผยผลการเลือกตั้งรายหน่วยโดยทันที รวมไปถึงการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรด้วย ส่วนบัตรเลือกตั้งจากนิวซีแลนด์ 1,542 ใบ ต้องถูกนับรวมในผลการเลือกตั้งด้วย หากไม่นับกกต.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบทั้ง 1,542 เสียง ยืนยันว่า การทวงถามประสิทธิภาพ ความโปร่งใสเป็นธรรม ไม่ได้เป็นประโยชนน์ของพรรคการเมือง แต่เป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง ที่จะปกป้องทุกเสียงที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งถูกบิดเบือนและเสียไป
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ ออกแถลงการณ์ตอบโต้ 6 พรรคการเมือง ที่ลงสัตยาบันต่อต้านสืบทอดอำนาจเผด็จการนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ข้อแรก กล่าวหาว่า ทั้ง 6 พรรค รีบร้อนช่วงชิงการนำ ทั้งที่คะแนนยังไม่เสร็จสิ้นดี ก็ต้องถามกลับว่า นี่เป็นการยอมรับเองใช่หรือไม่ว่า ผลคะแนนยังไม่เสร็จสิ้นดีทั้งที่ผ่านไปแล้ว 3 วัน ดังนั้นความผิดปกติจึงอยู่ที่ตัวพวกท่าน ที่สำคัญทั้ง 6 พรรคไม่มีความจำเป็นต้องช่วงชิงการนำ เพราะมีเสียงอย่างน้อย 255 เสียงในสภา ในสถานปกติสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว แต่นี่ไม่ปกติตามกติกาที่ออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญ การช่วงชิงคือพรรคพปชร.และพรรคแนวร่วม ไม่ใช่พรรคฝ่ายประชาธิปไตย
"ส่วนการอ้างผลคะแนนป๊อปปูล่าโหวตจัดตั้งรัฐบาลไม่ใช่เสียงของพรรคที่กุมส.ส.เสียงข้างมากอันดับ 1 มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องบอกว่า หากนับคะแนนดิบกันจริงๆ พปชร.มีอยู่เพียง 7.9 ล้านเสียงเท่านั้น แต่หากนับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย อย่างพรรคเพื่อไทยกับอนาคตใหม่ รวมกันแค่ 2 พรรคก็ 12-13 ล้านเสียงแล้ว การรวมตัวของพรรคการเมืองประชาธิปไตย 6 พรรค ไม่ใช่แค่มีความชอบธรรม แต่จำเป็นต้องเกิดขึ้น เพื่อพิทักษ์สิทธิเสียงของประชาชนที่ไปเลือกตั้ง ไม่ใช่ 250 ส.ว.ที่มีอำนาจมากกว่าเสียงประชาชน" น.ส.พรรณิการ์กล่าว.