'มิ่งขวัญ'แทงกั๊กร่วมรบ.'พท.' ลั่นเป็นคนรักษาคำพูด
การเมือง
"คนนี้ชัดเจน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจุดยืน ที่ไม่ไปหวังว่าจะเข้าใจเหตุผล ถ้าผมรู้ล่วงหน้านานๆจะไป วันนี้โทรศัพท์เข้ามา 300-400 กว่าสาย ผมอยากจะย้ำว่าเจตนารมณ์ของผมและพรรคเศรษฐกิจใหม่ชัดเจนตั้งแต่ต้นว่า เราจะอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระรมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเฟซบุ๊กของผมก็บอกอยู่แล้ว ผมจะมีเงื่อนไขอยู่นิดเดียวถ้าใครบอกจะเป็นประชาธิปไตยแล้วไม่รักษาคำพูด ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน" นายมิ่งขวัญ กล่าว
เมื่อถามว่า ทันทีที่รู้ว่า 6 เสียง ของพรรคเศรษฐกิจใหม่เป็นเสียงที่มีนัยยะ มีพรรคไหนติดต่อมาหรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ตนอยู่ในระบบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันว่าจะเข้าร่วมกับ 7 พรรคใช่หรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ครับ อยากได้แค่นี้ใช่ไหม ก็ตอบแล้วไง
ส่วนกรณีที่มีคนอยากเห็นตนเองเป็นรมว.พานิชย์ว่า นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะวันนี้คะแนนยังไม่นิ่ง อาจจะได้เพิ่ม 1-2 คะแนนก็เป็นได้ ส่วนมองการจัดตั้งรัฐบาลทั้งสองขั้วอย่างไร นั้น เชื่อว่าถึงอย่างไรประเทศไทยก็ต้องเดินต่อไป ต้องจัดตั้งรัฐบาลได้ ขอให้ไปถามนักกฎหมายเก่งๆ ซึ่งการที่ตนกลับมาลงการเมืองครั้งนี้ ก็มีคนบอกว่าให้ตนกลับมาทำงานให้ประเทศ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี คนไม่มีเงิน จึงขออย่าเป็นห่วงเลย แต่ขอให้ประกาศคะแนนก่อน ส่วนการเรียกร้องให้เปิดเผยคะแนนร้อยเปอร์เป็นสิ่งที่ดี ตนเห็นด้วย แต่ตอนนี้เหลือเพียง 5 เปอร์เซ็นต์มีจำนวนเป็นล้านที่ต้องโปร่งใสและไปพิสูจน์กัน
เมื่อถามว่าจะเซ็นสัตยาบันร่วมกับ 6 พรรคที่เหลือหรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า "เซ็นไม่เซ็นถ้าไม่รักษาความพูดแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ตนเองเป็นคนรักษาคำพูด จุดยืนการเมืองสำคัญ ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐอ้างคะแนนป็อปปูล่ามากสุดมาตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคเพื่อไทยที่ได้ ส.ส.อันดับ 1 นั้น ตนเองไม่มอง ไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะวิจารณ์ใคร เอาตัวเองให้รอดก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการสัมภาษณ์นั้น นายมิ่งขวัญ ตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉย และเลี่ยงที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกล่าวทีเล่นทีจริงด้วยว่า วันนี้เป็นวันที่ตนแถลงข่าว ที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แต่จะพยายามยิ้ม เห็นหรือไม่ว่าไม่ยิ้มแล้ว เพราะวันนี้ต้องรับสายโทรศัพท์จำนวนมาก