ข่าวซัดกกต.เลอะเทอะ4วันเลขไม่ชัด ข้องใจเสียงงอก4.4ล. - kachon.com

ซัดกกต.เลอะเทอะ4วันเลขไม่ชัด ข้องใจเสียงงอก4.4ล.
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงหลังทราบการประกาศผลเลือกตั้งของ กกต.ว่า ยังไม่มีอะไรชัดเจนสำหรับพรรคเพื่อไทย ยังมีคำถามอีกมาก ทั้งตัวเลขผู้มีสิทธิและผู้มาใช้สิทธิที่ไม่ตรงกัน โดยตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงเป็นตัวเลขจำนวนมาก เมื่อเห็นตัวเลข กกต.แล้วปวดหัว มันมีความไม่น่าเชื่อถือ กกต.ต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของ กกต.เอง เรายืนยันข้อเรียกร้องให้ กกต. เปิดเผยผลคะแนนรายหน่วย วันนี้เรื่องอื่นๆ ถือเป็นเรื่องรอง เรื่องหลักสำคัญ กกต.ต้องทำตัวเลขออกมาให้ชัด ไม่ใช่เปลี่ยนไปตามอำเภอใจในแต่ละวัน เพราะมีผลไปถึงผลการเปลี่ยน ส.ส.ของแต่ละพรรค การที่องค์กรระดับชาติเปลี่ยนตัวเลขเช่นนี้ถือเป็นความเลอะเทอะ และการที่ปล่อยให้การเลือกตั้งผ่านไป 4 วันแล้วยังสับสนอยู่เช่นนี้ จะให้เชื่อมั่นใน กกต.ได้อย่างไร เมื่อ กกต.เป็นผู้จัดการเลือกตั้งทั้งระบบ แล้วยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นได้นานาประเทศจะเชื่อมั่นได้อย่างไร แล้วจะไปพูดอะไรไปถึงการตั้งรัฐบาล เพราะจะกลายเป็นว่าเป็นรัฐบาลที่ล้มเหลวไม่มีความน่าเชื่อถือ เป็นรัฐบาลที่ล้มละลายไปแล้วกับกระบวนการจัดการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า จากข้อผิดพลาดต่างๆ การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กกต.ต้องตอบคำถามทั้งหมดให้ได้ก่อน ถ้าตอบไม่ได้คำถามนี้ถึงจะตามไปที่ กกต. วันนี้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ กกต.รับผิดชอบ แต่ตนคิดว่าจุดเริ่มต้นต้องอยู่ที่ กกต. วันนี้มีอย่างเดียวต้องทำหน้าที่ให้กระจ่างชัด ให้สังคมยอมรับว่ากระบวนการทุกอย่างเป็นกระบวนการเพื่อความโปร่งใสเสรีและเป็นธรรม ไม่ใช่กระบวนการที่หวังเสริมสร้างให้การสืบทอดอำนาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

ด้าน นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตัวเลขที่ประธาน กกต.แถลงเมื่อวันที่ 24 มี.ค. กับวันที่ 28 มี.ค. โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพิ่มมาประมาน 3 หมื่นกว่าคนถือเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะตัวเลขดังกล่าวควรชัดเจนก่อนวันเลือกตั้ง ขณะที่ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิก็เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านเสียง ถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก จึงอยากให้ กกต.ได้ชี้แจง ว่าจำนวนที่เพิ่มขึ้นมาจากอะไร

ขณะที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การนำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าจากเขตหนึ่งไปอีกเขตหนึ่งแล้วกรรมการประจำหน่วยขานเป็นบัตรเสีย แสดงว่ามาจากเขตอื่นที่นำมานับเป็นบัตรใครก็ไม่รู้แล้วเขตอื่นๆ มันจะมีกรณีเช่นนี้ในเขตเลือกตั้งอื่นๆ อีกหรือไม่ก็ไม่ทราบ แล้วพอจะพูดได้หรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิยุติธรรมแล้วจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่.