ข่าวอคม.กังขาผลคะแนนเลือกตั้ง หลังผู้มีสิทธิโผล่เกือบ5ล้าน - kachon.com

อคม.กังขาผลคะแนนเลือกตั้ง หลังผู้มีสิทธิโผล่เกือบ5ล้าน
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงภายหลังการประกาศผลคะแนนเลือกตั้ง ฝอย่างไม่เป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เป็นเวลา 94 ชม. หลังปิดหีบเลือกตั้ง เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา เราถึงได้ทราบผลคะแนนเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์ 100% หลังการกดดันของประชาชนที่ร่วมลงชื่อ ในwww.change.org และพรรคการเมือง 6 พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ที่ไปยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยผลการเลือกตั้งทั้งหมด ต้องขอขอบคุณ กกต ที่ได้เปิดข้อมูลทั้งรายเขต และคะแนนดิบทั่วประเทศออกมา ซึ่งเราต้องขอขอบคุณประชาชนทั่วประเทศที่มอบคะแนนเสียงมากกว่า 6.2 ล้านเสียง ให้พรรคอนาคตใหม่ ส่งผลให้ อนาคตใหม่ มี ส.ส. เขต ที่ 30 เขต ส.ส. บัญชีรายชื่อ จากการคำนวณของเรา จะมีไม่ต่ำกว่า 50 คน หมายความ ว่าเราจะมี ส.ส. 80 คนขึ้นไป จาก 6.2 ล้านคะแนน แต่ต้องรอดู กกต. ว่าจะเคาะจำนวนคะแนนเสียง ต่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คนจำนวนเท่าไร และจะมีใบเหลือง ใบแดงให้กับ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ และพรรคฝ่ายประชาธิปไตย เท่าไร อย่างไรก็ตาม

“เรายืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เช่นเดียวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเราระวังถึงที่สุด ซึ่งมีโอกาสยากมากที่จะได้ใบเหลือง หรือใบแดง แต่หากได้รับจริง เราพร้อมจะเลือกตั้งซ่อม และเชื่อว่าประชาชนจะเทคะแนนให้เรามากกว่าเดิม ส่วนผลของคะแนนที่ออกมาวันนี้ขอให้ กกต. ตอบชัดๆ ว่าเรื่องนี้ มาจากสาเหตุอะไร เป็นที่ความผิดพลาดทางเทคนิค หรือท่านมีตัวเลขหลายชุด ตัวเลขที่ให้ออกมาแต่ละครั้งนั้นจึงไม่ตรงกัน โดยตัวเลขที่น่าสงสัยที่สุดคือ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งตามหลักสากล นี่เป็นตัวเลขแรกที่ออกมาหลังการเลือกตั้ง แต่ กกต.ประกาศวันที่ 24 มี.ค. ว่ามู้ออกมาใช้สิทธิ 65% แต่วันนี้ประกาศ ว่ามีถึง 74% ห่างกันเกือบ 5 ล้านคน ซึ่ง 5 ล้าน คนนี้เพิ่มมาจากอะไร เพิ่มมาจากความผิดพลาด หรืออะไรกันแน่ นี่เป็นคำถามที่กลับไปยังกกต. เราเชื่อมั่นในการทำงานของท่าน เชื่อว่าท่านจะทำงานโดยใช้ภาษีประชาชน 5,800 ล้านบาท อย่างคุ้มค่าและโปร่งใสมากที่สุด”


​​​เชื่อว่าคะแนนมีแต่จะเพิ่มขึ้น และเผลอๆ นอกจากจะได้จำนวน ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นแล้ว จำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของเราอาจเพิ่มขึ้นอีกด้วย เรายินดีจะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในสนามเลือกตั้ง” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

เมื่อถามว่าตัวเลขที่ กกต.เปิดเผยมาอาจส่งผลให้จำนวน ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ลดลง หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ไม่ได้ลดลงเพราะตัวเลขที่พรรคอนาคตใหม่คำนวนอยู่ 80-85 ที่นั่ง ซึ่งตัวเลขที่พรรคอนาคตใหม่ใช้ลงสัตยาบันกับ 6 พรรคการเมืองก็อยู่ที่ 85 ที่นั่ง ดังนั้นจำนวนที่นั่ง ส.ส. 255 ที่นั่งอาจจะเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยหลังจากนี้ และสิ่งที่คาดหวังคือพรรคการอื่นจะเข้าร่วมแนวทางเดียวกัน ทั้งนี้มองว่าแนวร่วมในการต่อต้านการสืบทอดอำนาจไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคการเมืองที่มาร่วมรัฐบาลกัน บางคนอาจไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลภายใต้การนำของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แต่สามารถปิดสวิตช์ ส.ว. ด้วยการร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคเศรษฐกิจใหม่เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการแถลงแต่ยังไม่มีความชัดเจน แต่เมื่อ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ระบุว่าเป็นคนรักษาคำพูดว่าจะอยู่กับประชาธิปไตยก็จะเชื่อมั่นในตัวนายมิ่งขวัญ รวมถึงพรรคภูมิใจไทยที่ระบุจะไม่เอาการสืบทอดอำนาจของ คสช. ก็มั่นใจว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะทำตามคำที่เคยสัญญาไว้

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกังวลกระแสงูเห่าของพรรคอนาคตใหม่  น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า เราเชื่อมั่นในว่าที่ ส.ส.ของเราทุกคน พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่ยึดโยงโดยอุดมการณ์ เราไม่ได้ใช้เงินซื้อใคร เราไม่ได้ซื้อ ส.ส.หรือดูดใครเข้ามา การที่จะดูดคนของเราออกไปถามว่ามีความเป็นไปได้หรือมีความพยายามหรือไม่นั้น ก็คงต้องบอกว่ามีความพยายามและมีความเป็นไปได้ แต่เราเชื่อมั่นว่าพรรคที่ยึดโยงด้วยอุดมการณ์ยากที่จะมีใครโดนดึงไป  ส่วนพรรคจะมีมาตรการในเรื่องนี้อย่างไรหรือไม่นั้น ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงนี้ พรรคจะมีการจัดอบรมว่าที่ ส.ส.ของเรา โดยจะมีการให้กำลังใจกันและขอบคุณที่ทุกคนได้ทำงานกันอย่างหนัก ข้อสำคัญที่สุดจะมีการพูดถึงบทบาทหน้าที่ของผู้แทนสภาราษฎร เพราะว่าที่ ส.ส.ของเราจำนวนมากเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง 

“โดยจะมีกิจกรรมที่เราจะมีการลงนามถึงการต่อสู้ร่วมกันกับพรรคอนาคตใหม่ไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายทางการเมือง ขั้นแรกของเราคือการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่สถาปนาอำนาจให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนเป็นห่วงหรือไม่ที่ ส.ส.จะถูกดูดออกไปนั้น ก็คงไม่สามารถไปบังคับกันได้ พรรคการเมืองไม่ได้มีอำนาจจะไปบังคับใครอยู่แล้ว แต่เราเชื่อว่าหากเปิดให้มีการชี้แจงและอภิปรายซักถามกันแล้วทุกคนพร้อมจะลงนามร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งพรรคเรายึดโยงกันด้วยอุดมการณ์ยึดโยงด้วยความหวังถึงอนาคตใหม่ร่วมกัน เป็นพรรคที่ก่อร่างสร้างขึ้นมาแตกต่างจากพรรคอื่นๆ ในอดีตอยู่แล้ว นี่คือความเป็นเอกลักษณ์และความเป็นเอกภาพของพรรคเรา และเชื่อว่าทุกคนเข้าใจและพร้อมที่จะลงนามในสัญญาฉบับนี้”โฆษกพรรคฯ กล่าว.