ข่าว'อภิรักษ์'โล่งใจไม่ต้องจ่ายสินไหม1.2พันล.คดีรถดับเพลิง - kachon.com

'อภิรักษ์'โล่งใจไม่ต้องจ่ายสินไหม1.2พันล.คดีรถดับเพลิง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ศาลปกครอง ถ.เเจ้งวัฒนะ ศาลปกครองสูงสุด อ่านพิพากษาในคดีที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม.ยื่นฟ้อง กทม. ผู้ว่ากทม.เเละรมว.มหาดไทย เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 จากกรณีที่เคยมีคำสั่งให้นายอภิรักษ์ชดใช้ค่าเสียหาย 1,296,794,910 บาทจากกรณรที่ถูก ปปช.ชี้มูลทางความผิดอาญาในฐานกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในโครงการจัดซื้อรถเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย

โดยคดีนี้ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของผู้ว่า กทม. ที่ให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีถูกกล่าวหาว่ามีมูลความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยเนื่องจากเห็นว่าผู้ฟ้องไม่ได้มีอำนาจใดที่ต่างจากการทำข้อตกลงของความเข้าใจที่กำหนดให้เปิด L/C (ตราสารเครดิตหรือเอกสารที่มีขึ้นเพื่อยืนยันการชำระเงิน)ภายใน 30 วันนับตั้งเเต่ลงนามซื้อขายสัญญา อีกทั้งเมื่อดำรงตำเเหน่งยังขอให้มีการทบทวนการทำสัญญาเเบบรัฐต่อรัฐหรือระงับการเปิด L/C ย่อมเเสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังในการตรวจสอบพันธสัญญา เเม้ผู้ฟ้องจะเห็นถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการก็หามีอำนาจลำพังที่จะบอกยกเลิกสัญญาเเละคำพิพากษาของศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองก็ได้วินิจฉัยว่าผู้ฟ้องมีเจตนากระทำให้เกิดความเสียหายต่อกทม.การกระทำจึงไม่เป็นการละเมิดคำสั่ง กทม.ที่ให้ผู้ฟ้องชดใช้ค้าสินไหมทดเเทนจึงมิชอบด้วยกฎหมาย จึงพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งผู้ถูกฟ้องคดี 

โดยศาลปกครองสูงสุดพิจารณาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงฟังยุติว่าผู้ฟ้องคดีได้มีคำสั่งเเต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดการจัดซื้อรถเรือดับเพลิงเพื่อเกิดประโยชน์เหมาะสม ก่อนการขอเปิด L/C ด้วยเเล้วจึงเห็นชัดว่าว่าในภาวะเช่นนี้ผู้ฟ้องได้คำนึงถึงผลอันเกิดขึ้นเเละได้ใช้ความระมัดระวังพอสมควรเเก่เหตุตามกรอบอำนาจหน้าที่ของตนในการรักษาผลประโยชน์ทางราชการเเละได้กระทำครบถ้วน หาได้เป็นการกระทำโดยประมาทเลิ่นเล่ออย่างร้ายเเรงเป็นเหตุให้ กทม.ได้รับความเสียหายเเต่ใดไม่ กรณีจึงไม่ถือเป็นการกระทำละเมิด อุทธรณ์ผู้ถูกฟ้อง ส่วนเรื่องที่ผู้ฟ้องคดีได้ทราบถึงความไม่ชอบของโครงการดังกล่าว เห็นว่าผู้ฟ้องคดีได้พยายามตรวจสอบความถูกต้องเเละทบทวนการจัดซื้อโดยดำเนินการให้เกิดการทุจริตโปร่งใสเเม้ผู้ฟ้องคดีทราบถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมาย เเต่ก็ไม่ทีอำนาจเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการในขั้นตอนของ ครม. ก.มหาดไทยเเละ ก.พานิชย์เเต่โดยลำพัง 

ส่วนประเด็นที่ ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองเห็นว่าเเม้ผู้ฟ้องไม่มีเจตนาที่ก่อให้เกิดความเสียหาย เเต่คดีนี้เป็นการวินิจฉัยทางเเพ่งเกี่ยวกับรับผิดทางละเมิดหากเป็นการประมาทเลิ่นเล่ออย่างร้ายเเรงที่ผู้ฟ้องคดีเปิด L/C เป็นเหตุให้การซื้อขายสมบูรณ์ เห็นว่าประเด็นดังกล่าวได้มีการวินิจฉัยไว้เเล้วว่าผู้ฟ้องได้ใช้ความระมัดระวังเพียงพอสมควรเเก่เหตุเเละตามกรอบอำนาจหน้าที่ การที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งผู้ถูกฟ้องคดีที่1-2จึงฟังไม่ขึ้นศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เห็นว่าคำสั่งของผู้ว่า กทม.ดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถือเป็นการกระทำละเมิด จึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว.