ปชป.จ่อถกเลือกหัวหน้าพรรค แย้มคนรุ่นใหม่ชิงเก้าอี้กก.บห.
การเมือง
ขณะเดียวกัน มีว่าที่ส.ส.และอดีตส.ส.ที่เพิ่งพ่ายแพ้การเลือกตั้งเดินทางมาพบปะกันที่พรรคด้วยเช่นกัน ทำให้บรรยากาศโดยรวมภายในที่ทำการพรรคมีความคึกคัก และในช่วงบ่ายของวันนี้ (29 มี.ค.) พรรคได้เชิญทั้งส.ส.เก่าปี 2554 และว่าที่ส.ส.ใหม่มาประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย
อย่างไรก็ตาม นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคไม่ยกเลิกการทำไพรมารี่ หรือการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค แต่สามารถปรับปรุงวิธีการได้ เพราะพรรคเป็นของทุกคนจึงควรรับฟังความเห็นจากสมาชิกพรรค แต่จะทำรูปแบบไหนต้องหารือกันก่อน ส่วนคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคคนต่อไปต้องมี 5 ข้อ 1.เป็นนักปฏิรูป 2.มีประสบการณ์ด้านบริหาร 3.มีอุดมการณ์ที่มั่นคง 4.เปิดกว้าง และ5.ไม่อยู่ในสังกัดของใคร เชื่อว่าการสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ อาจมีกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาแข่งขันด้วย ซึ่งส่วนตัวพร้อมสนับสนุน แต่หากใครจะเข้ามาเพื่อหวังอำนาจและตำแหน่ง ควรให้เกียรติพรรค
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการตัดสินใจร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลของพรรค ตนเห็นว่าควรเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และส.ส.ใหม่ เป็นผู้กำหนดทิศทางและตัดสินใจ ส่วนว่าจะให้อดีตส.ส.หรือผู้สมัครที่สอบไม่ได้ จะให้เข้ามาร่วมตัดสินใจหรือไม่ก็เป็นเรื่องของข้อบังคับพรรคทำว่าจะมีการยกเว้นหรือไม่
ขณะที่ นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา รักษาการประธานกิจกรรมพิเศษภาคอีสาน พรรคประชาธิปัตย์ ใน กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ คนไทยทุกฝ่ายติดกับดักของกลศาสตร์หลังการเลือกตั้งของแต่ละฝ่าย ใช้วาทะกรรมเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เช่น พยามที่จะบิดเบือนแบ่งแยกให้มีฝ่ายเผด็จการ ฝ่ายประชาธิปไตย จึงอยากขอให้ทุกฝ่ายเลิกสร้างภาพลวงตาประชาชน และยังมีความพยามรวบรวมจำนวนส.ส. ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีผลการเลือกตั้งที่ชัดเจน ซึ่งทำให้ประชาชนและกองเชียร์ในแต่ล่ะฝ่าย สับสนและเกิดการแบ่งแยกกัน 3.ขอวิงวอนให้คนไทยเลิกเชื่อข่าวลือทางออนไลน์และวาทะกรรมต่างๆ และย้อนไปดูสิ่งที่นักการเมืองเคยพูดไว้ เพื่อรู้ทันในการกระทำของนักการเมืองแต่ละคน
นายภูมิสรรค์ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดกล่าวอ้างการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ซึ่งจะกลายเป็นเงื่อนไขในการสร้างความแตกแยกในอนาคต และขอให้กกต.สร้างความกระจ่างในการจัดการเลือกตั้งที่ตรงไปตรงมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เหตุการณ์ต่าง ๆ จะนำไปสู่วิกฤตประเทศ ซึ่งจะทำให้กกต.กลายเป็นแพะรับบาปจากทั้งฝ่ายผู้ชนะและผู้แพ้.