ข่าวทส.มอบเงินเเยียวยา2แสนอาสาดับไฟป่าพลัดตกเขาดับ - kachon.com

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีนายอาโล๊ะ อาซังกู่ อายุ 62 ปี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติ อาสาสมัครชาวบ้านได้ร่วมดับไฟป่าในพื้นที่สูงเขตระหว่างหมู่บ้านป่าคาสุขใจ ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ติดต่อกับหมู่บ้านป่าตึง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เกิดพลัดตกจากภูเขาศีรษะกระแทกพื้นจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ว่า ปัจจุบันได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นหลังเกิดเหตุทราบว่าชาวบ้านได้ช่วยกันเก็บกู้ศพขึ้นมาจากช่องเขาแล้ว โดยตนขอแสดงขอความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ โดยกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์ พร้อมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ล่าสุด นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ร่วมเดินทางลงพื้นที่ช่วยเหลือ พร้อมติดตามสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือแล้ว ส่วนการเยียวยานายอาโล๊ะ อาซังกู่ อาสาสมัครดับไฟป่านั้น จะมีมูลนิธิผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรฯ เป็นประธานกรรมการ ช่วยในเรื่องเงินเยียวยาประมาณ 2 แสนบาทแก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและครอบครัว ทั้งนี้ แม้นายอาโล๊ะ จะถือประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติ แต่ทางมูลนิธิไม่มีเงื่อนไขจำกัดต่อประเด็นดังกล่าว เพราะถือว่าอาสามัครผู้นั้นได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในการร่วมอนุรักษ์ ปกป้องและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามเงื่อนไขมูลนิธิที่ครอบคลุมประชาชนที่เข้ามาช่วยภารกิจ

นายอรรถพล กล่าวว่า สำหรับสถานการ์ลอบเผาไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า ปัจจุบันยังคงพบจุดความร้อน (Hotspots) กระจายในพื้นที่จ.เชียงใหม่ เชียงรายและแม่ฮ่องสอน ประกอบกับความกดอากาศทำให้อากาศนิ่ง ดังนั้น สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ จึงพบค่าฝุ่นละอองเกินกว่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ รวมถึงไฟป่าในตามแนวเขายิ่งทำให้เกิดฝุ่นและหมอกควันเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ หลังได้รับรายงานว่ามีฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานระดับสูง โดยเฉพาะที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีค่ามลภาวะในอากาศติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกหลายวันต่อเนื่อง ล่าสุด ได้สั่งการให้ กระทรวงทรัพยากรฯ กระทรวงมหาดไทย และจ.เชียงใหม่ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางยกระดับการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ขณะที่ประชาชนในพื้นที่จะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า จากนี้ทางกระทรวงทรัพยากรฯ จะต้องยกระดับการปฏิบัติภารกิจให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชน ไม่ให้เผาป่า ซึ่งประชาชนจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติภารกิจต้องทำงานอย่างเข้มข้นและบังคับใช้กฎหมายจริงจัง หากพบเห็นพี่น้องประชาชนลอบเผาป่าจะต้องบังคับใช้กฎหมายทันที โดยทางกระทรวงทรัพยกรฯ ได้มีเป้าหมายในการดับไฟป่าให้หมดทุกพื้นที่และต้องไม่มีจุดไฟป่าเกิดขึ้นใหม่ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าต้องระมัดระวัง ส่วนอาสามัครจะต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในชีวิตอีก ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว คาดสถานการณ์ไฟป่าจะบรรเทาภายใน 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนในการให้ทุกคนหยุดเผาป่า ส่วนกรณีอาสาสมัครดับไฟป่าขอย้ำว่าทางกระทรวงทรัพยากรฯ ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่.