'บิ๊กตู่'ลุยเชียงใหม่ถกแก้ฝุ่นพิษพรุ่งนี้
การเมือง
นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของการศึกษา การทำความเข้าใจในระเบียบวิธีการปฏิบัติต่างๆของราชการ ของรัฐบาล ท้องถิ่นและประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการหารือร่วมกันแก้ปัญหาเหล่านี้ วันนี้ถ้าเรารวมจุดที่มีไฟไหม้ป่าทั้งในประเทศและนอกประเทศมีจำนวนไม่ต่ำเป็น 1,000 จุดขึ้นไป วันนี้รัฐบาลได้ปรึกษาหารือกับประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว แต่ต้องเริ่มจากภายในประเทศของเราไปพร้อมกันด้วย อย่าให้ใครมาบิดเบือนในเรื่องต่างๆเหล่านี้นำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จรวจรสชการจ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมประชุมติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ภาคเหนือในวันที่ 2 เม.ย.ว่า ตนไปติดตามสถานการณ์ โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปเป็นเดือนแล้ว ซึ่งปัญหาฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือมาจากสาเหตุไฟป่าและปัญหาฝุ่นในเมือง ซึ่งเรามีความเข้มงวดแก้ปัญหาแต่ก็ลดลงได้น้อย จากการตรวจสอบจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า โดยรวมแล้วในหลายจังหวัดภาคเหนือและต่างประเทศมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกว่า 3,000 จุด ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาตรงนี้ อีกทั้งในพื้นที่เขตเมืองก็ต้องเข้มงวดประชาชนไม่ค่อยมีความสุขนัก เพราะต้องบังคับใช้กฏหมายและประชาชนต้องร่วมมือในการแก้ไขปัญหา
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ไฟไหม้ป่าส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากไฟป่าอย่างเดียว แต่เกิดเพราะถูกจุดขึ้น ดังนั้นวันนี้จะต้องมีความร่วมมือในพื้นที่ผ่านกระทรวงมหาดไทย ในส่วนต่างประเทศกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะหารือในเวทีอาเซียน เพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาไฟป่ามีความยั่งยืน เพราะที่ผ่านมาเกิดขึ้นทุกปี เรามีการดำเนินการแก้ไขมาเป็นระยะ แต่ที่สำคัญเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ป่าได้มากนักเพราะเป็นพื้นที่ภูเขาสูง ตนขอให้เห็นเจ้าหน้าที่ด้วย และทราบว่าเมื่อ 31 มี.ค.มีอาสาสมัครดับไฟป่าเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นผลดีกับประเทศชาติบ้านเมือง อยู่ที่ความเข้าใจความรู้ว่าจะรักษาธรรมชาติอย่างไร ตนเห็นใจผู้มีรายได้น้อย แต่ไม่ว่าจะมีรายได้น้อยหรือมากเป็นคนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหาประเทศของเราให้ได้
เมื่อถามว่า ในการลงพื้นที่วันที่ 2 เม.ย.จะได้ข้อสรุปมาตรการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ดำเนินการเบื้องต้นไปแล้ว แต่จะทำให้เข้มงวดมากขึ้น โดยจะมีการแก้ปัญหาการจุดไฟในพื้นที่ป่า ที่มีการจับกุมดำเนินคดีไปหลายคดีแล้ว แต่ก็ยังเกิดขึ้นอีกแสดงให้เห็นว่ากฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้หมด จึงอยู่ที่การสร้างหัวใจของคนในพื้นที่ ซึ่งก็คือประชาชนคนไทย ส่วนต่างประเทศก็เป็นเรื่องของต่างประเทศที่จะต้องหารือร่วมกัน วันนี้ไม่ต้องมีขั้น 1 ขั้น 2 ขั้น 3 เพราะจะต้องทำเรื่องเหล่านี้ให้ดีที่สุดพร้อมกับการแสวงหาความร่วมมือจากต่างประเทศ มันคงไม่มีขั้นไหนได้อีกแล้ว เพราะสามารถใช้กฎหมายและขอความร่วมมือได้อย่างเดียว
เมื่อถามว่า พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ระบุมีกระบวนการลอบเผาป่าเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เป็นเรื่องที่จะต้องสืบสวนกันต่อไป ถ้าสอบแล้วพบว่าใครเป็นคนปลุกปั่นก็ไปหากันตรงนู้น อย่ามาเกี่ยวพันกันมากนัก คนที่ทำรู้ตัวเองอยู่แล้ว ยืนยันไม่ต้องการให้ทุกคนใช้เรื่องนี้ในทางการเมืองอีก ทุกอย่างเป็นการเมืองไปหมดประเทศชาติเดินไม่ได้ ตนคิดว่าสื่อรู้ทุกเรื่องและต้องเข้าใจด้วยวิจารณญาณของสื่อ เพียงแต่จะช่วยประเทศชาติกันอย่างไรขอฝากตรงนี้ด้วยแล้วกัน".