'สุวัจน์'ห่วงเสียงปริ่มน้ำรัฐบาลไร้เสถียรภาพ
การเมือง
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ทั้งนี้พรรคไม่มีข้อสงสัยในเรื่องของคะแนนที่ออกมา ยอมรับผลการเลือกตั้งทุกประการ ทุกอย่างว่าไปตามกติกา และรอกกต.ให้คำตอบที่ชัดเจนในวันที่ 9 พ.ค. ว่าใครได้เท่าไหร่ ส่วนที่หลายฝ่ายยังมีข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการจัดเลือกตั้ง และผลคะแนนนั้น รวมถึงการล่ารายชื่อถอดถอนกกต.อาจจะทำไปสู่การฟ้องร้องเลือกตั้งเป็นโมฆะนั้น ตนมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความแตกต่างจากเดิม ก็เป็นเรื่องที่กกต.ต้องชี้แจงในข้อสงสัยต่างๆให้เข้าใจ วันนี้เกมของผู้เล่นจบไปแล้ว เหลือเกมของกรรมการที่จะบอกว่าใครแพ้ ชนะ ได้กี่คะแนน
นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับพรรคขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายไหนเป็นกิจจะลักษณะ ไม่มีใครเสนอผลประโยชน์อะไร และไม่ได้คุยกับพรรคการเมืองเสียงข้างน้อยเพื่อรวมกัน ที่มีข่าวว่าไปกินข้าวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ขอปฏิเสธ แค่ไปรับประทานอาหารแล้วเจอกัน นักการเมืองทักทายกันปกติ ทั้งนี้ พรรคชาติพัฒนาไม่ได้ห่วงเรื่องการเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ห่วงการเมืองหลังจากนี้ เพราะคาดหวังว่าการเลือกตั้งแล้วบ้านเมืองจะเรียบร้อย ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพมาแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่โครงสร้างของตัววันนี้ไม่มีความชัดเจนใครจะได้เสียงข้างมาก ตัวเลขปริ่มๆ ต่างกันไม่มากจะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลบอบบาง ประชุมยาก การผ่านกฎหมายต่างๆ ก็ยาก กระทบกับความเชื่อมั่นด้านต่างๆ รวมถึงถ้านเศรษฐกิจ ที่ต่างชาติเองก็มองตัวเลขนี้เหมือนกัน ตนเคยบอกว่าตัวเลขที่มีเสถียรภาพคือ 300 ที่นั่ง แต่วันนี้ต่างฝ่ายเหมือนชิงกันที่ 250 อีกทั้งวันนี้ตัวเลขยังไม่นิ่งอาจจมีการเลือกตั้งซ่อมบางเขตก็จะทำให้ตัวเลขส.ส.เปลี่ยนแปลงอีก ในทางการแข่งขันทุกพรรคก็ต้องลงสนามหมดเพื่อรักษาคะแนนที่เคยได้ แค่คิดถึงการเลือกตั้งซ่อมก็หนาวแล้วอย่าเพิ่งพูดถึงการเลือกตั้งใหม่
เมื่อถามต่อว่าหากตัดคำว่าฝ่ายรัฐบาล กับฝ่ายค้านออกหมายความว่าพรรคชาติพัฒนาพร้อมนำ 3 เสียงที่มีไปเติมเติมฝ่ายเสียงข้างมากเพื่อสร้างเสถียรภาพหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนาเราอยู่ของเราอย่างนี้ ไม่แบ่งฝ่าย คำนึงถึงการยอมรับของพี่น้องประชาชนเสียงข้างมากห่วงเสถียรภาพรัฐบาล ประเทศ เศรษฐกิจที่ต้องมีความเชื่อถือ เชื่อมั่น รัฐบาลอยู่ได้นาน นโยบายต่างๆ เรียบร้อย ดังนั้น ยังเหลือเวลาอีกเดือนกว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องพูดคุยหาทางออกกันว่าจะทำอย่างไห้มีเสถียรภาพ
เมื่อถามว่าสุดท้ายเนื่องจากเสียงปริ่มๆ อาจออกอาจจะเป็นทางอื่นที่ไม่ใช่การตั้งรัฐบาลปกตินายสุวัจน์ กล่าวว่า เชื่อว่าถึงอย่างไรก็ต้องมีคนได้เกิน 250 แต่ถ้ากินน้อยก็เป็นเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล หากเกินมากสเถียรภาพก็ดีขึ้น ซึ่งหากมีเสถียรภาพแล้วงูเห่าหรือเรื่องอื่นที่ไม่ได้อยู่ในกฎเกณฑ็ก็น้อยลง และเป็นไปตามกลไกของสภาปกติ ส่วนจะมีรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่ทุกฝ่ายตอนนี้ก็พยายามที่จะหาความชอบธรรมด้วยการหาเสียงข้างมาก เชื่อเถอะว่าถึงอย่างไรการเมืองก็มีทางออก แต่ระหว่างนี้ก็ต้องรักษาบรรยากาศก่อนการประกาศผลอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามต่อว่ายังมั่นใจการบริหารงานพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนตัดสินใจแล้วว่าคิดอย่างไร แต่ก็ต้องดูว่าให้มีเสถียรภาพให้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศได้.