ข่าว'วิษณุ'ยันเลือกตั้งไม่เป็นโมฆะ แนะกกต.แจงข้อกังขาสังคม - kachon.com

'วิษณุ'ยันเลือกตั้งไม่เป็นโมฆะ แนะกกต.แจงข้อกังขาสังคม
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการล่ารายชื่อถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เนื่องจากไม่พอใจในการปฎิบัติหน้าที่จัดการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา  ว่า   การล่ารายชื่อดังกล่าวยังไม่นำไปสู่อะไร เพราะในกระบวนการถอดถอนนั้นจะต้องผ่านการสอบสวน และอื่นๆอีกมาก ใครจะล่ารายชื่อก็ทำไป แต่กระบวนการยังมีอีกยาว หากจะให้กกต.หยุดปฏิบัติหน้าที่ ถามว่าแล้วใครจะประกาศผลการเลือกตั้ง หรือเขามีความตั้งใจไม่อยากให้ประกาศผลการเลือกตั้ง ทั้งนี้ตนไม่ทราบเจตนาของคนที่ล่ารายชื่อครั้งนี้ ซึ่งเขาอาจจะเจตนาดีก็ได้ หรืออาจหวังอะไร แต่อยากให้ช่วยดูจนสุดกระบวนการว่าที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อยได้ดูแลอยู่ เพราะภายใน 1-2 เดือนนี้ ที่จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก จึงไม่ควรเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง นี่เป็นหนึ่งเหตุผล ที่จำเป็นต้องเลื่อนการเลือกตั้งจากวันที่ 24 ก.พ.2562 มาเป็นวันที่ 24 มี.ค.2562 เพราะไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นในช่วงพระราชพิธี

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากประกาศผลการเลือกตั้งไม่ได้จะ ส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นโมฆะ เพราะการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะได้ต่อเมื่อมีคำสั่งศาลออกมาเท่านั้น  แต่ในวันนี้คดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งยังไม่ถึงชั้นศาลเลย จึงคิดว่ายังไม่มีเรื่องที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กกต.ควรออกมาชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ อย่างเป็นระบบ และควรรวบรวมคำถามทั้งหลาย เพื่อตอบให้เกิดความกระจ่าง ไม่ต้องรีบ แต่ต้องตอบให้ตรงกัน ทั้งนี้ต้องเข้าใจด้วยว่ากกต.ชุดนี้คือกกต.ชุดใหม่ซึ่งมีคณะทำงานใหม่ รวมถึงกฏหมาย วิธีการเลือกตั้ง และการนับคะแนนรูปแบบใหม่

“คนไม่ค่อยเข้าใจว่าในการเลือกบัตรใบเดียวนั้น เมื่อเลือกเสร็จแล้ว คะแนนต้องเอามาหารหลายรอบ ทำให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนน 30,000 คะแนน ได้ส.ส.มา 1 คน จากทีแรกตั้งหลักว่าต้องได้ 60,000-70,000 คะแนน จึงจะได้ส.ส. 1 คน อย่างไรก็ตาม กกต.ต้องอธิบายทั้งหมดอย่างเป็นระบบ เพราะเป็นวิธีใหม่จริงๆ ทั้งวิธีการเลือกตั้งและการนับคะแนน รวมถึงเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็เห็นใจทุกอย่างที่ทำให้ทุกอย่างเกิดความวุ่นวายขึ้น”รองนายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่าอย่างนี้จะเกิดความเป็นธรรมแก่พรรคการเมืองขนาดใหญ่หรือ นายวิษณุ กล่าวว่า พรรคใหญ่ ได้ผ่านการได้เปรียบไปหมดแล้ว จึงได้เฉลี่ยไปถึงพรรคเล็ก เป็นไปตามกฎกติกาที่มีมาตั้งแต่ต้น ไม่มีใครไปกลั่นแกล้งกัน ในเมื่อกฎกติการะบุไว้อย่างนี้ ผลที่ออกมาจึงช่วยไม่ได้ แต่ที่สุดแล้วควรให้กกต. เป็นผู้ประกาศ และเปิดเผยถึงวิธีการคิดเฉลี่ยคะแนน.