'จ่านิว'ปูดฝ่ายมั่นคงล้วงลูกไปรษณีย์ สั่งเปิดชื่อถอดกกต.
การเมือง


นอกจากนี้นายสิรวิชญ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ตนได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทำการล้วงลูกไปรษณีย์ไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงติดต่อไปยังพนักงานไปรษณีย์ ขอเปิดดูเอกสารรายชื่อขอถอดถอน กกต.ที่มีการส่งเข้ามาที่ไปรษณีย์สามเสนใน ทำให้ผู้ที่ส่งรายชื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย จึงขอให้ทางไปรษณีย์สามเสนใน ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนส่งมาถึงมือพวกตนโดยตรงได้ และยังมีกรณีการล่ารายชื่อที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคใต้ หลังดำเนินการเสร็จปรากฏเจ้าหน้าที่รัฐขับรถตามมาขณะดำเนินการขนรายชื่อไปส่งที่ไปรษณีย์ด้วย ส่วนรายชื่อดังกล่าวส่งมาถึงหรือไม่ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

สำหรับการรักษาความปลอดภัยนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ กว่า 15 นาย ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ ดูความเรียบร้อย รวมถึงยังมีเจ้าหน้าที่บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ที่มีอำนาจในการดูแลและจัดการพื้นที่ในบริเวณศูนย์ราชการ มาชี้แจงถึงกรณีที่ไม่สามารถตั้งโต๊ะรับรายลื่อได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวต้องขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน จึงจะสามารถตั้งโต๊ะจัดกิจกรรมได้

ขณะเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เข้ายื่นหนังสือถึงประธานกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบ และชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ว่า ประเด็นแรกขอตั้งข้อสังเกตถึงการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการระบุถึงจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ ซึ่งมีความแตกต่างจากผลการนับ 100 เปอร์เซ็นต์ กว่า 4 ล้านคน เนื่องจากยังไม่ได้นับคะแนนอีก 9,232 หน่วย และยังมีบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า (ในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร) อีกกว่า 2 ล้านใบ แต่ตนมองว่าจำนวนบัตรที่เพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 4 ล้านใบ กกต.ยังไม่ชี้แจงให้ชัดเจนว่า เป็นบัตรที่เกิดขึ้นจากหน่วยเลือกตั้งใดบ้าง เพราะตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 113 ระบุว่าต้องนำบัตรที่มาจากการเลือกตั้งล่วงหน้ามานับรวมที่หน่วยเลือกตั้งด้วย
นายเรืองไกร กล่าวว่า กกต. แถลงผลการนับคะแนน 100 เปอร์เซ็นต์ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 51,239,638 ล้านคน มาใช้สิทธิ์ 38,268,375 คน หรือ 74.69 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจำนวนนี้เป็นตัวเลขที่ตรงกัน แต่เมื่อแยกเป็นบัตรดีบัตรเสียจะพบว่าเป็นบัตรดี 35,523,645 ใบ บัตรเสีย 2,130,327 ใบ โหวตโน 605,093 ใบ ซึ่งมีผลต่างจากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 9,310 ใบ ซึ่งกกต.ต้องตอบให้ได้ และขอให้นำผลคะแนนจากทุกหน่วยเลือกตั้งมาเปิดเผย เพื่อให้สาธารณะชนได้ทำการตรวจสอบ ทั้งนี้จากเอกสารการแถลงข่าวของ กกต. ระบุว่า หากประชาชนหรือพรรคการเมืองใดมีข้อสงสัยก็ขอให้ถามมา ตนจึงเข้ามายื่นถามเป็นคนแรก

นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จากการแถลงของกกต. ที่ระบุว่าการนับคะแนนที่ 90 เปอร์เซ็นต์ โดยยังไม่ได้นับรวมบัตรเลือกตั้งล่วงหน้ากว่า 2 ล้านใบนั้น และมีการนับรวมเมื่อครบ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่อาจนำบัตรทั้งกว่า 2 ล้านใบ มานับคะแนนได้ เพราะตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 113 ระบุว่าต้องนำบัตรที่มาจากการเลือกตั้งล่วงหน้ามานับรวมที่หน่วยเลือกตั้งด้วย เมื่อนำมานับทีหลังก็จะเป็นไปตามแนวทางในพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 114 ที่กกต.มีมติไม่นับคะแนนบัตรเลือกตั้งล่าช้าจากประเทศนิวซีแลนด์
“นี่คือสิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้งอันชอบธรรมอย่างผม และนักศึกษาที่ถูกเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าทำไมไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง การไม่ยอมรับก็เพราะ กกต. ยังตอบไม่ได้ ว่าบัตรเขย่งมันคืออะไร และจำนวนบัตรที่ออกมาทำไมตัวเลขไม่ตรงกัน แตกต่างกันอยู่ที่ 9,310 ใบ ทั้งนี้เหตุผลที่มาวันนี้ ผมขอความกรุณารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่าการตรวจสอบเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ท่านอย่ามายุ่ง ไม่ใช่หน้าที่ วันนี้ กกต. จะต้องตอบเอง ถ้าถูกก็ต้องตอบได้ แต่ถ้าทำไม่ถูกก็จะตอบไม่ได้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะคัดค้าน ผมเอาคำพูดกันไปกันมาก็ไม่สามารถมัดกกต. ได้ อย่างไรก็ตาม กกต.บอกว่าคะแนน 9 หมื่นกว่าหน่วยส่งมายังกกต.กลางแล้ว ก็ขอให้ชี้แจงรายละเอียดมาเลย”นายเรืองไกร กล่าว.