ข่าวสบส.ลั่นหลักฐานครบมือพร้อมสู้สมาคมแพทย์แผนไทยฯ - kachon.com

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวถึงกรณี นายสุกษม อามระดิษ อดีตเลขานุการสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ออกมาแถลงยืนยันว่าไม่ได้ขยายสาขา และบางส่วนแอบอ้างชื่อสมาคมฯ ไปใช้โดยพละการ พร้อมปฏิเสธไม่ได้มีการซื้อขายใบประกาศนียบัตร แต่มีการออกใบประกาศให้ศูนย์ฝึกหมอนวดอื่นโดยมองหลักคุณธรรม และเห็นว่าไม่มีคำสั่งห้ามปฏิบัติลักษณะดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร ว่า กรมสบส.ได้ส่งหนังสือถึงสมาคมฯ มา 2 ฉบับแล้ว เขาอาจจะหยิบเอาฉบับสุดท้ายมากล่าวถึงหรือไม่ ซึ่งย้ำว่ากรมคงไม่ทำอะไรที่ไม่ครบตามกรอบเวลา จริงๆ ก่อนหน้านี้ สมาคมฯ มีหนังสือตอบกลับมาว่าจะไม่มาชี้แจงจนกว่ากรมจะยกเลิกคำสั่งระงับห้ามขึ้นทะเบียนหมอนวดที่มีใบประกาศนียบัตรของสมาคมฯ ก่อน อย่างไรก็ตามหากสมาคมฯ คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็เป็นสิทธิของสมาคมฯ ที่จะฟ้องร้องกรมสบส.ได้ ส่วนกรมเองก็พร้อมที่จะชี้แจง

นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับหมอนวดเกือบแสนคนที่กรมสบส.สั่งระงับนั้นเป็นผู้ที่มีใบประกาศฯ จากสมาคมฯ ที่เดียวเท่านั้น ที่อื่นไม่มีปัญหา ทั้งนี้พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ที่ออกมานั้นผ่านการรับฟังความเห็นมาอย่างรอบด้าน และมีบทเฉพาะกาลที่เปิดช่องให้ผู้ถือใบปรกาศนียบัตรรับรองการนวดที่เคยมีก่อนกฎหมายนี้จะออก มาขึ้นทะเบียนได้ฟรีภายใน 180 วัน เพื่อจะนำเข้าสู่ฐานระบบตามกฎหมายใหม่ ซึ่งแต่ละหน่วยงานเขาก็มาขึ้นทะเบียนกันทั้งนั้น หมอนวดที่มีใบประกาศจากสมาคมแพทย์แผนไทยฯ เองก็มีมาขึ้นทะเบียนเช่นเดียวกัน ตัวเลขคร่าวๆ น่าจะหลักหมื่นคน แต่หลังจากนั้นกรมได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการอบรมไม่ถูกต้อง มีการไปอบรมตามสาขาต่างๆ จังต้องสั่งระงับเพื่อดำเนินการตรวจสอบ โดยสั่งให้สสจ. ไปตรวจสอบโรงเรียนนวดที่เป็นเฟรนไชน์ทั้งหลายว่าไม่สามารถทำในนามสมาคมฯไม่ได้ ต้องมาขึ้นทะเบียนเอง เพราะเราต้องมีการตรวจสถานที่ ตรวจมาตรฐานวิทยากรหรือครูนวด จะมาอนุมัติที่เดียวแล้วไปขยายสาขาเองไม่ได้

เมื่อถามว่ามีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ว่าสอนนวดที่ไหน ที่นั่นต้องเป็นผู้ออกใบประกาศฯ ให้ นพ.ณัฐวุฒิ กล่าว่า เป็นกฎหมายอยู่แล้ว ใครมาขออนุญาตเปิดหลักสูตรการสอนก็ต้องสอนตามที่ได้รับอนุญาต จะมาขออนุญาตในนามสมาคมฯ แล้วจะไปให้สาขาตามต่างจังหวัดอบรมแทนไม่ได้ ถ้าบอกว่านั่นไม่ใช่สาขา แต่ไม่ขัดข้องที่จะเอาชื่อสมาคมไปใช้ หรือมีการแอบอ้างเอาชื่อไปใช้ แสดงว่าศูนย์นวดเหล่านั้นเป็นที่อบรมเถื่อน เพราะไม่ได้ขออนุญาต ไม่ทราบว่าได้ชื่อมาได้อย่างไร ทำไมถึงเอาชื่อสมาคมฯไปใช้ เป็นเรื่องระหว่างสมาคมฯ กับศูนย์เหล่านั้น แต่เมื่อสบส.ไปเจอว่ามีการใช้ชื่อสมาคมฯ แบบนีก็ต้องสั่งระงับเพื่อตรวจสอบ

“ยืนยันว่าที่สบส.ดำเนินการอยู่ขณะนี้ เป็นมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เพราะว่าคนที่มาขออนุญาตเปิดสอน 240 กว่าแห่ง ก็ทำตามกฎหมายหมด และทุกอย่างไม่ได้ทำตามดุลยพินิจ แต่ทำในรูปของกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่มีผู้แทนทุกภาคส่วนทั้งนักกฎหมาย ตำรวจ ครูบาอาจารย์ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาคอยพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากบอกว่าไม่ยอมรับกรรมการฯ ก็ไม่ทราบเหมือนกัน ดังนั้นหากจะฟ้องร้อง กรมก็พร้อมเพราะทีมกฎหมายเราก็มีหลักฐานเรียบร้อยอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาเราใช้วิธีการส่งหนังสือให้เขามชี้แจงก่อน หากเขาชี้แจงได้เราก็พร้อมขึ้นทะเบียนให้” นพ.ณัฐวุฒิ กล่าว.