ข่าว'บิ๊กโย่ง'กำชับรื้อถอนแฟลตดินแดงให้ถูกต้องตามมาตรฐาน - kachon.com

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)  ให้สัมภาษณ์ถึงอาคารเคหะชุมชนดินแดง แฟลต 18-20  ซึ่งอยู่ระหว่างรื้อถอนตามโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 ถล่มลงมาในช่วงเย็นวันที่ 2 เม.ย. ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้รายงานข้อมูลให้รับทราบแล้ว ซึ่งตนได้กำชับให้คำนึงมาตรฐานการรื้อถอนเพราะบริเวณนั้นเป็นชุมชนที่หนาแน่นมาก  อาคารตึกกับรั้วเสาไฟฟ้าห่างกันนิดเดียวเพียงครึ่งเมตร  จึงต้องระมัดระวัง ความจริงแล้วมีการกำหนดมาตรฐานการรื้อถอนอยู่ ทางสำนักงานเขตและสำนักงานโยธาก็มีมาตรฐานตามระเบียบอยู่ เพียงแต่เป็นเพราะอาคารมีความเก่าแก่มาก การประมาณการรื้อถอนอาจจะคลาดเคลื่อนเพราะคิดว่าอาคารคงแข็งแรง ดังนั้นการรื้อถอนอาคารแบบปกติคงใช้ไม่ได้ ต้องมีการวางแผนสำหรับอาคารเก่าซึ่งสามารถทรุดตัวได้ตลอดเวลา เรื่องนี้ได้ย้ำเตือนไปแล้ว คิดว่าผู้ประกอบการมีประกันอยู่ คงดำเนินการดูแลความเสียหายของประชาชนให้เรียบร้อย ต่อไปนี้ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นในการดำเนินการ ซึ่งได้เน้นย้ำไปแล้วโดยให้ประสานกับทางเขตว่าเราจะต้องดำเนินการอย่างไรให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดเพราะเราก็มีหลักเกณฑ์ในการดำเนินการชัดเจนอยู่แล้ว

พล.อ.อนันตพร ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางสำนักงานเขตได้แจ้งความเอาผิดผู้ว่าฯ กคช.ว่า ก็ให้ผู้ว่าฯ กคช.ไปคุยกับเขตแล้วว่ามีความผิดพลาดอย่างไร ก็คงเป็นการฟ้องร้องตามกฎหมาย กคช.ก็ต้องลบล้างว่าเรามีเหตุผลอย่างไร ในการดำเนินการ เรื่องนี้ทราบว่ามีการคุยกันเรียบร้อยแล้ว  ถ้ามีการปรับและรับผิดชอบก็ยินดีดำเนินการตามที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ก็ให้ดำเนินการบนมาตรฐานโดยคำนึงถึงอาคารที่รื้อถอนนั้นเป็นอาคารเก่า ไม่ใช่ไปรื้อถอนแบบปกติ ได้ประสานทุกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว คิดว่าเราก็ต้องการให้โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 นี้เดินหน้าต่อไป เพราะพี่น้องประชาชนก็รอโครงการเฟสสองอยู่ ถ้ารื้อไม่ได้ก็สร้างใหม่ไม่ได้ ตรงนี้ต้องรับผิดชอบร่วมกันและสร้างมาตรฐานให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามอาจจะทำให้โครงการก่อสร้างใหม่มีความล่าช้าไปบ้าง เพราะหากไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับทางเขตและทางผู้รับผิดชอบได้ก็อาจจะไม่อนุญาตให้รื้อถอนต่อไปได้ ตรงนี้เราพยายามทำให้ถูกมาตรฐาน ถ้าดำเนินการต่อไปเร็วได้ประชาขนก็ได้อาคารใหม่เร็ว แต่ไม่ใช่สาระหลัก สาระหลักคือทำอย่างไรให้ปลอดภัยในการรื้อถอน  

ด้านนายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเขตดินแดงและสำนักงานโยธาได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและสาเหตุที่เกิดขึ้น และประเมินว่าจะสามารถให้เริ่มดำเนินการรื้อถอนต่อได้เมื่อไหร่ เบื้องต้นคงต้องชะลอการรื้อถอนออกไปไม่น้อยกว่า 1 เดือน เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วง โดยได้มีการส่งทหารเข้าช่วยดูแลอำนวยความสะดวกในการทำความสะอาดพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่การเคหะฯ และช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ ตนจะเดินทางไปมอบเงินค่าชดเชยรายได้ให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเท่าที่ทราบมีเจ้าของรถแท็กซี่ 4-5 ราย และเจ้าของรถส่วนตัว 1 ราย กรณีที่เป็นความเสียหายมากจะได้รับรายละ 5,000 บาท ส่วนที่เสียหายเล็กน้อยจะได้รับรายละ 3,000 บาท ในส่วนของความเสียหายทางทรัพย์สินทางประกันภัยรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่เกิดขึ้นจะถึงขั้นต้องยกเลิกสัญญาว่าจ้างบริษัทรับเหมาที่รื้อถอนหรือไม่ นายธัชพล กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของการเคหะฯ ไปพิจารณาข้อผิดพลาดของบริษัทรับเหมา เพราะการรื้อถอนที่ผ่านมาดำเนินการไปมากกว่าครึ่งแล้ว โดยในส่วน 3 อาคารแรกซึ่งอยู่บริเวณถนนวิภาวดีได้ดำเนินการไปเสร็จแล้ว เหลือเพียง 2 อาคารฝั่งถนนจตุรทิศ ซึ่งบริเวณนี้เป็นชุมชนแออัด ยากต่อการทำงาน ฝ่ายกฎหมายคงต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขสัญญาต่างๆ เพราะหากบริษัททำตามสัญญา การจะไปเอาผิดยกเลิกสัญญาก็อาจจะถูกฟ้องร้องกลับได้ เพราะความผิดพลาดซึ่งเกิดจากเหตุสุดวิสัยเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ถึงขั้นต้องยกเลิกสัญญาหรือไม่คงต้องพิจารณาให้รอบคอบ อย่างไรก็ตามได้กำชับถึงการดำเนินงานทุกด้านต้องยึดมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด.